TheraNatal OvaVite (แบ่งขาย) ทาน 30 วัน วิตามินสำหรับผู้หญิง อายุ 35 ปีขึ้นไปที่อยากตั้งครรภ์

฿0 ฿ 2,200

อาหารเสริมที่ประกอบด้วย Folate แบบ L-5 methyltetrahydrofolate และ Coenzyme Q10 สำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป และต้องการวางแผนตั้งครรภ์ ประกอบด้วย Coenzyme Q10 (CoQ10) ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มคุณภาพไข่ สำหรับผู้หญิงที่ต้องการวางแผนตั้งครรภ์

  • Description

Product Description

TheraNatal OvaVite
วิตามินสำหรับผู้หญิง อายุ 35 ปีขึ้นไปที่อยากตั้งครรภ์

 

 


 

TheraNatal OvaVite วิตามินสำหรับก่อนตั้งครรภ์

 

           อาหารเสริมที่ประกอบด้วย Quarterfolic และ Coenzyme Q10 สำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป และต้องการวางแผนตั้งครรภ์

 ·         ประกอบด้วย Coenzyme Q10 (CoQ10) ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มคุณภาพไข่ สำหรับผู้หญิงที่ต้องการวางแผนตั้งครรภ์

ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน ประกอบด้วย
- 1 เม็ด สำหรับวิตามินรวมและสารอาหารที่สำคัญสำหรับร่างกาย ได้แก่ โฟเลท
 แบบ L-5 methyltetrahydrofolate 1334 mcg DFE , วิตามิน D3 2,000 IU และอื่นๆ
- 2 ซอฟท์เจล ประกอบด้วย CoQ10 รวม 250 มิลลิกรัม (ซอฟท์เจลละ 125 มิลลิกรัม) ซึ่งพัฒนาสูตรเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยี VESIsorb ที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้ดูดซึม CoQ10 ได้เพิ่มขึ้นมากถึง 600%

โดยหากเปรียบเทียบกับการรับประทาน CoQ10 แบบปกติ ต้องรับประทานในปริมาณมากถึง 750-1,500 มิลลิกรัม จึงจะสามารถดูดซึมได้เท่ากับ OvaVite 250 มิลลิกรัม

(จากการทดลองวิจัยเปรียบเทียบระหว่างการรับประทาน VESIsorb CoQ10 กับ CoQ10 ทั่วไป ผลปรากฎว่า VESIsorb CoQ10 ให้ชีวปริมาณสารออกฤทธิ์ (ปริมาณตัวยาที่สามารถผ่านผนังทางเดินอาหารและผ่านตับไปได้) มากกว่าถึง 300-600%)

CoQ10 ตัวช่วยสำคัญในการเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

 

          เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ความเสื่อมของเซลล์ก็เกิดขึ้นตามธรรมชาติ รวมถึงความสามารถในการผลิต CoQ10 ก็ลดลงเช่นเดียวกัน ซึ่ง CoQ10 เป็นสารสำคัญที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นเองได้ อยู่ในส่วนเยื่อหุ้มของไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) มีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์ ATP เพื่อเป็นแหล่งให้พลังงานแก่เซลล์ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม แต่การผลิต CoQ10 ของร่างกายจะลดน้อยลงหลังอายุ 20 ปีเป็นต้นไป

            เนื่องจากการตกไข่ เป็นกระบวนการหนึ่งของร่างกายที่จำเป็นต้องใช้พลังงานสูง และอย่างที่ทราบกันว่า ไมโตคอนเดรียมีหน้าที่หลักในการสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ ในไข่จึงมีไมโตคอนเดรียปริมาณมากกว่าเซลล์อื่นๆ ของร่างกาย ดังนั้นหากระดับ CoQ10 ลดลง ในผู้หญิงที่มีอายุเพิ่มขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรังไข่และคุณภาพของไข่
 
การรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ CoQ10 จึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยผลิตพลังงานให้กับเซลล์ไข่ ช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ ทำให้ไข่มีคุณภาพดี สมบูรณ์ พร้อมผสมกับอสุจิ และมีพลังงานสูงจากเซลล์ไปใช้ในการแบ่งตัว หลังจากไข่ผสมกับอสุจิ เพื่อพัฒนาไปเป็นตัวอ่อนต่อไป
 
มีงานวิจัยยืนยันว่า ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป 1 ใน 3 ของไมโตคอนเดรียไม่มีความสามารถที่จะผลิตพลังงานได้อย่างเพียงพออีกต่อไป นั่นหมายถึงปริมาณ 1 ใน 3 ของ DNA ในไมโตคอนเดรียก็หายไปจากรหัสพันธุกรรมด้วยเช่นกัน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและระบบการทำงานของไข่ ทำให้โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ลดลงไปด้วย
ส่วนอีกงานวิจัยหนึ่งพบว่า การได้รับ CoQ10 ช่วยเพิ่มคุณภาพของไข่ ในสิ่งมีชีวิตที่มีอายุเพิ่มขึ้นได้ และมีความปลอดภัยเมื่อได้รับ CoQ10 ในปริมาณวันละไม่เกิน 400 มิลลิกรัม
 
            จึงเป็นที่มาสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ TheraNatal OvaVite ที่มีผลโดยตรงในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเนื้อเยื่อในรังไข่ที่จะมีพลังงานต่ำเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดย CoQ10 จะทำหน้าที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ เพิ่มคุณภาพของไข่ให้สมบูรณ์ และทำให้มีอัตราการตั้งครรภ์ที่สูงขึ้นได้
พร้อมกันนี้ด้วยเทคโนโลยี VESIsorb ลิขสิทธิ์เฉพาะของ TheraNatal จึงทำให้สารอาหาร CoQ10 ในผลิตภัณฑ์ OvaVite มีประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้สูงกว่าแบบปกติ เมื่อเปรียบเทียบจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ พบว่า การรับประทาน VESIsorb CoQ10 จำนวน 2 ซอฟท์เจล (ปริมาณรวม 250 มิลลิกรัม) สามารถดูดซึมได้เทียบเท่ากับการรับประทาน CoQ10 ทั่วไป 750-1,500 มิลลิกรัม

 
Folic Acid/Folate กับผลกระทบอันมหาศาลในช่วง 1-3 สัปดาห์แรกของทารก

 

          สารอาหารสำคัญใน OvaVite 1 เม็ดของวิตามินและแร่ธาตุรวม ที่สำคัญอย่างยิ่ง และขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่เตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ ก็คือ โฟเลท โดยเป็น แบบ L-5 methyltetrahydrofolate 1334 mcg DFE ซึ่งออกฤทธิ์ได้ดีกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่าโฟเลทรูปแบบอื่น ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วกว่าแบบปกติ (folic acid / Quatrefolic) ไม่ต้องผ่านกระบวนการเมตาบอลิซึม

 
สำคัญอย่างไรสำหรับผู้เตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์?

โฟเลท เป็นสารอาหารในกลุ่มวิตามินบี ที่แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยโดยตรงต่อการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ แต่เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างตัวอ่อน เพราะมีผลต่อการพัฒนาระบบไขสันหลัง ประสาท และสมองของทารก ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียงช่วง 28 วันแรกหลังการปฏิสนธิเท่านั้น! ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมาก เพราะผู้หญิงที่ตั้งครรภ์นั้น กว่าจะทราบว่าตั้งครรภ์ ก็หลังจากกลไกการพัฒนาทารกในระยะแรกนี้เริ่มขึ้นและสิ้นสุดลงแล้ว (ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่ทราบว่าตั้งครรภ์จะทราบหลังจากประจำเดือนขาด ซึ่งเลยช่วงเวลาหลังปฏิสนธิไปไม่น้อยกว่า 1 เดือน)

เพื่อความสมบูรณ์ของทารกที่แม่สร้างได้ จึงจำเป็นต้องได้รับอาหารเสริมที่มีปริมาณโฟเลทที่เพียงพอก่อนการตั้งครรภ์ เพราะหากมารับประทานในช่วงที่ตั้งครรภ์แล้ว ก็ไม่มีผลในการลดความเสี่ยงหรือช่วยป้องกันความผิดปกติของทารกได้ เพราะการปิดหัวปิดท้ายของการสร้างกระดูกสันหลังนี้ได้เกิดขึ้นไปแล้ว

การขาดโฟเลท ในช่วงก่อนการตั้งครรภ์และช่วงแรกของการตั้งครรภ์ที่ส่งผลกระทบต่อการสร้างตัวอ่อน คือ ทำให้เกิดความพิการทางสมอง เนื่องจากเกิดความผิดปกติในการสร้างหลอดประสาท ที่มีผลต่อไขสันหลังและสมอง โดยกระดูกส่วนสันหลังจะค่อยๆ เจริญออกมาล้อมรอบไขสันหลัง ซึ่งหากช่วงที่ร่างกายกำลังพัฒนานี้เกิดความผิดปกติ จะทำให้เกิดปัญหาขึ้น ภาวะที่รุนแรงที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้คือ สมองทั้งหมดขาดหายไป หรือที่พบบ่อยคือกระดูกสันหลังไม่ยื่นมาเชื่อมเป็นวงแหวน เพื่อโอบล้อมไขสันหลัง ทำให้ของเหลวในไขสันหลังตันกระดูกที่ปิดไม่สนิท โป่งออกมา เกิดภาวะที่เรียกว่า Spina Bifida
 
อย่างไรก็ตามโฟเลท ยังเป็นสารอาหารที่พบได้ในโภชนาการทั่วไป เพราะพบในผักใบเขียวเกือบทุกชนิด ธัญพืชต่างๆ และผลไม้ตระกูลส้ม ในช่วงวางแผนการตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารเหล่านี้ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ร่างกายไม่ประสบภาวะโฟเลทไม่เพียงพอ
 
จากการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำให้ผู้หญิงที่เตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์ ควรได้รับโฟเลท ปริมาณอย่างน้อย 400 ไมโครกรัมต่อวัน หรือปริมาณที่ดีกว่านั้นที่แนะนำคือ 800 ไมโครกรัม แต่ไม่เกิน 1,000 ไมโครกรัมต่อวัน ซึ่งโฟเลทนั้น สามารถละลายในน้ำและขับออกทางปัสสาวะได้ จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะสะสมในร่างกาย
ดังนั้นสำหรับผู้หญิงที่ต้องการวางแผนการตั้งครรภ์ ควรรับประทานโฟเลทในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิสนธิและสร้างตัวอ่อนที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยควรรับประทานก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1-3 เดือน และต่อเนื่องหลังตั้งครรภ์อีก 3 เดือน ซึ่งสามารถรับประทานได้ถึง 1,000 ไมโครกรัม หรือ 1 มิลลิกรัม ตามปริมาณในผลิตภัณฑ์ OvaVite นั่นเอง
 
สารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการวางแผนตั้งครรภ์

ในวิตามินและแร่ธาตุรวมของ OvaVite ยังประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญก่อนการตั้งครรภ์อื่นๆ ได้แก่
         
            วิตามิน D3
           OvaVite มีสารอาหารที่เป็นวิตามิน D3 ถึง 2,000 IU เนื่องจากเป็นวิตามินที่สำคัญต่อทารก การขาดวิตามิน D3 อาจทำให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือมีผลต่อการพัฒนากระดูกของทารก ทำให้เกิดโรคกระดูกอ่อนในเด็ก หรืออาจทำให้รูปร่างไม่สมประกอบได้
 
            ไอโอดีน
            เป็นสารสำคัญของร่างกายที่ใช้พัฒนาต่อมไทรอยด์ ซึ่งต่อมไทรอยด์มีผลโดยตรงต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย การเจริญเติบโต และการใช้พลังงาน การได้รับปริมาณไอโอดีนอย่างเพียงพอ ทั้งก่อนการตั้งครรภ์และขณะตั้งครรภ์ จะช่วยทำให้การเจริญเติบโตของทารกเป็นไปอย่างปกติ ทำให้ประสาทหูและการได้ยิน รวมถึงระบบหัวใจมีพัฒนาการตามช่วงวัย หากเกิดภาวะขาดไอโอดีนก่อนการตั้งครรภ์ จะส่งผลให้แม่ที่ตั้งครรภ์มีระดับไอโอดีนไม่เพียงพอต่อพัฒนาการของทารกไปสู่ช่วงหลังการตั้งครรภ์ได้
            จึงมีคำแนะนำให้ผู้หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์ ควรได้รับไอโอดีน ปริมาณไม่น้อยกว่า 150 ไมโครกรัมต่อวัน ซึ่งไอโอดีนใน OvaVite นั้นมีปริมาณอยู่ที่ 220 ไมโครกรัม

 

ส่วนประกอบของ TheraNatal OvaVite

 


 

TheraNatal OvaVite เหมาะกับใคร

 

          OvaVite จะเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไปที่ต้องการวางแผนตั้งครรภ์ เนื่องจากเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น การทำงานและความสมบูรณ์ของไข่จะน้อยลงตามช่วงวัย รวมถึงการผลิต CoQ10 ก็ลดน้อยลงด้วย


            ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายสามารถผลิตไข่ที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้พลังงานสูง CoQ10 จึงเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการนี้ สำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี การรับประทานอาหารเสริม OvaVite ที่มีปริมาณ CoQ10 อย่างเหมาะสมจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญอีกทางหนึ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

            อย่างไรก็ตาม ด้วยสารอาหารสำคัญที่มีใน TheraNatal OvaVite ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงมีส่วนประกอบสำคัญของ CoQ10 ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม ทำให้สามารถรับประทานได้ทุกวัย แม้ว่าคุณจะมีอายุน้อยกว่า 35 ปีก็ตาม

 
ความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ TheraNatal กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ

 

TheraNatal ประกอบไปด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้ได้ทั้ง

  • ก่อนการตั้งครรภ์ (TheraNatal Core, TheraNatal OvaVite)

  • ขณะตั้งครรภ์ (TheraNatal One, TheraNatal Complete)

  • หลังคลอดและให้นมบุตร (TheraNatal Lactation One, TheraNatal Lactation Complete)

 
ความพิเศษของ TheraNatal OvaVite และคุณภาพของ
TheraNatal OvaVite

 

การพัฒนาสูตรพิเศษ (Superior Formulation) สอดคล้องกับความต้องการสารอาหารเฉพาะ โดย TheraNatal OvaVite ประกอบด้วย

·         โฟเลท โดยเป็น แบบ L-5 methyltetrahydrofolate 1334 ไมโครกรัม DFE
·         วิตามิน D3 ปริมาณสูง เพื่อเพิ่มปริมาณวิตามิน D ให้มีระดับสูงขึ้นสำหรับการเตรียมพร้อมตั้งครรภ์และขณะตั้งครรภ์ (ซึ่งผู้หญิงก่อนตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ มักมีปริมาณระดับวิตามิน D ที่ไม่เพียงพอ)
·         ไอโอดีน เพื่อเพิ่มการทำงานของต่อมไทรอยด์ ในการพัฒนาระบบประสาทและสมองของทารก
·         โคลีน (Choline - สารอาหารสำคัญที่จัดกลุ่มอยู่ในวิตามินบี) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นสารสื่อประสาท ที่ใช้ในการส่งกระแสประสาทของสมอง รวมถึง วิตามิน B6 ที่ช่วยลดความรุนแรงของอาการคลื่นไส้ อาเจียน ของการแพ้ท้อง
·         CoQ10 250 มิลลิกรัม ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ ทำให้ไข่สมบูรณ์ และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์
 
ได้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานโดยสถาบันตรวจสอบชั้นนำระดับโลก
            ผลิตภัณฑ์ TheraNatal ทุกชนิด ผ่านการตรวจสอบโดย NSF International ว่ามีความบริสุทธิ์ และปลอดภัยจากสารปนเปื้อน (องค์กรส่งเสริมอนามัยแห่งชาติระหว่างประเทศ (NSF) องค์กรอิสระสาธารณะที่ไม่ข้องเกี่ยวกับภาครัฐใดๆ ดำเนินการเกี่ยวกับความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้อุปโภคบริโภคโดยไม่มุ่งหวังผลประโยชน์ทางการค้าและกำไร แต่มุ่งเน้นที่การปกป้องและพัฒนาระดับคุณภาพและสุขอนามัยของประชาชน ด้วยการมอบการรับรองมาตรฐานระดับโลกให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน)
 
            โดยการทดสอบของ NSF จะแยกตรวจสอบในทุกกระบวนการ ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของ TheraNatal สามารถละลายและดูดซึมในร่างกายได้ดี ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอื่นๆ ที่วางจำหน่ายส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบและรับรองคุณภาพดังกล่าว
 
Gluten Free และไม่ผ่านกระบวนการสังเคราะห์สี 
            ผลิตภัณฑ์ TheraNatal ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก NSF International แล้วว่า ไม่มีส่วนผสมของ Gluten และไม่ผ่านการย้อมสีสังเคราะห์ รับรองได้ว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภค
 
            รับประทานได้ง่าย
            สามารถรับประทานได้ง่าย แม้จะเป็นผู้ที่กลืนยาหรืออาหารเสริมได้ยาก เนื่องจากขนาดเม็ดเล็กกว่าอาหารเสริมก่อนการตั้งครรภ์อื่นๆ ทั้งรูปแบบเม็ดและซอฟท์เจล
 
            คุ้มค่าและได้ประสิทธิผลสูงสุด
            ความคุ้มค่าสูงสุด ในขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับการแยกจ่ายเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดต่างๆ รวมกัน เพื่อบำรุงก่อนการตั้งครรภ์

                       
วิธีรับประทาน TheraNatal OvaVite 

 

TheraNatal OvaVite ประกอบด้วย วิตามินแบบเม็ด และ วิตามินแบบซอฟท์เจล

วิตามินแบบเม็ด 1 เม็ด สำหรับวิตามินรวมและสารอาหารสำคัญของร่างกาย ได้แก่ วิตามิน A, C, D3, E, โฟเลท, ไอโอดีน, โคลีน ฯลฯ และ

วิตามินแบบซอฟท์เจล 2 ซอฟท์เจล สำหรับ VESIsorb CoQ10 ที่ให้ปริมาณ CoQ10 รวม 250 มิลลิกรัม มากกว่า CoQ10 แบบปกติถึง 300-600% บรรจุในแผงฟอยล์แยกประเภทของเม็ดและซอฟท์เจล สะดวกในการจัดเก็บและพกพา ป้องกันความชื้น ช่วยให้จดจำการรับประทานได้ง่าย และทำให้การรับประทานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

โดยทาน  วิตามินแบบเม็ด 1 เม็ด และ วิตามินแบบซอฟท์เจล 2 ซอฟท์เจล วันละ 1ครั้ง พร้อมอาหารมื้อเช้า
 


ระยะเวลาที่ควรรับประทาน
            ควรรับประทานอย่างต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 3 เดือน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
 
สามารถรับประทานต่อเนื่องในขณะตั้งครรภ์ได้หรือไม่
            เมื่อคุณพบว่าตั้งครรภ์แล้ว แนะนำให้ปรับสูตร เปลี่ยนไปรับประทาน อาหารเสริมระหว่างตั้งครรภ์ TheraNatal One, TheraNatal Complete ที่มีสารอาหารสำคัญเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ เช่น เหล็ก และ DHA อย่างไรก็ตามการรับประทาน OvaVite ในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของการตั้งครรภ์ก็ยังคงสามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่การเปลี่ยนไปรับประทาน TheraNatal One, TheraNatal Complete จะได้รับคุณค่าสารอาหารของเหล็กและ DHA ที่เหมาะสมกับภาวะตั้งครรภ์มากกว่า

 

 

 







 

Product FAQ

 


Q. How is TheraNatal OvaVite different from other prenatal supplements?

TheraNatal OvaVite is a daily preconception prenatal supplement for women in their mid-30s and beyond, or for any women with egg quality concerns.* It is designed specifically to prepare your body for pregnancy, with methylated folate, 50 mcg (2,000 IU) of vitamin D3, 100 mg of choline, 220 mcg of iodine, 250 mg of highly bioavailable CoQ10 formulated with patented VESIsorb® technology, and other fertility focused ingredients.

 

Q. What is VESIsorb?

VESIsorb is a patented colloidal delivery system that has been shown to improve the absorption and bioavailability CoQ10 by 300-600%, compared to other oil-based CoQ10 supplements. This is important because CoQ10 is a large fat soluble molecule which is difficult to absorb even when taken with food.

This means that each 125 mg CoQ10 softgel in TheraNatal OvaVite provides a minimum absorbed dose of 375 mg of CoQ10.


Q. Is it normal for the color of the coenzyme Q10 softgels to vary from box to box?

Yes. It is normal for the color of the coenzyme Q10 softgels to vary in color. The natural colorant used for the softgels is annatto (a natural extract from the achiote tree) which can vary slightly from lot to lot. The softgels in general should be a shade of orange.

Q. Should I continue taking TheraNatal OvaVite once I find out I'm pregnant?

The nutrients in TheraNatal OvaVite are safe to take during pregnancy. The tablet in TheraNatal OvaVite supports your nutrient needs while you are trying to conceive and during early pregnancy (through your first trimester).

While it is safe to take the CoQ10 softgels during pregnancy, there are no known benefits to continuing them once you find out you are pregnant.

Before beginning your second trimester, it is best to switch to a prenatal vitamin designed for pregnancy, like TheraNatal One or TheraNatal Complete.

Q. What is the difference between TheraNatal OvaVite and TheraNatal Core?

TheraNatal Core is a daily preconception tablet for any woman trying to conceive.

TheraNatal OvaVite is comprised of the TheraNatal Core tablet PLUS two coenzyme Q10(CoQ10) softgels. CoQ10 is a nutrient that supports mitochondrial energy production for healthy egg quality.* Egg quality declines with age, women in their mid-30s and beyond may want to consider TheraNatal OvaVite.
 

Q: Can I take TheraNatal OvaVite if I'm allergic to shellfish?

Yes. There is no shellfish in TheraNatal OvaVite. If you have reacted to radiocontrast material or antiseptics which contain iodine, you may still be able to safely take TheraNatal OvaVite even though it contains iodine. These reactions are commonly confused with sensitivity to iodine or shellfish, though studies have shown that they are not related.

Q. Can I take other nutritional supplements along with TheraNatal OvaVite?

Yes. Certain other supplements can be taken along with TheraNatal OvaVite (like omega-3 fish oil or other single-nutrient fertility supplements such as DHEA, inositol, and others). However, do not take any type of multivitamin, other prenatal, or additional CoQ10 while taking TheraNatal OvaVite.

 

Q. Does TheraNatal OvaVite interact with any prescription medications?

As with any dietary supplement, it is recommended you discuss with your pharmacist and or health care team to clarify whether TheraNatal OvaVite can be taken along with your medications.

Medications that are changed by the liver Cytochrome P450 3A4 (CYP34) substrates - CYP34 are important enzymes in your body, mainly found in the liver to break down medications in the body. Vitamin D may increase how quickly the liver breaks down some medications. Taking TheraNatal OvaVite, which contains 50 mcg (2,000 IU) vitamin D, along with some medications may decrease the effectiveness of some medications. Before taking TheraNatal OvaVite, talk to your healthcare provider to determine if you are taking medications that are changed by the liver, for example lovastatin, clarithromycin, estrogens, and others.

TheraNatal OvaVite may also affect the absorption of certain prescription medications as follows:

Antibiotics: Calcium, magnesium, iron, zinc (in TheraNatal OvaVite) can bind to antibiotics in the stomach and reduce their absorption and effectiveness. Depending on the antibiotic prescribed, you may need to separate taking any multivitamins from antibiotics by at least 2 to possibly 6 hours or discontinue taking a multivitamin while taking the antibiotic. Please discuss with your pharmacist and healthcare team to determine if you should stop taking your multivitamin for a short period of time.

  • • Penicillamine (Cuprimine, Depen) – Separate by 2 hours
  • • Cephalexin (Keflex) – Separate by 3 hours
  • • Tetracycline antibiotics (doxycycline, minocycline, demeclocycline)- Separate by 4 hours
  • • Ciprofloxacin (Cipro), gemifloxacin (Factive), levofloxacin (Levaquin), Moxifloxacin (Avelox) – Separate by 6 hours



Atorvastatin (Lipitor) - This medication helps control cholesterol levels in the body. Taking it with TheraNatal OvaVite, which contains 50 mcg (2,000 IU) of vitamin D, may decrease the amount of atorvastatin absorbed by the body. Separate by a minimum of 2 hours.

High Blood Pressure Medications (captopril, enalapril, losartan, valsartan, diltiazem, amlodipine, quinapril, hydrochlorothiazide, furosemide): CoQ10 may lower blood pressure and can increase the effects of medications used to lower blood pressure. Taking coenzyme Q10 along with medications for high blood pressure might cause your blood pressure to go too low. Additional note with captopril, iron and magnesium (in TheraNatal OvaVite) can affect absorption of this specific antihypertensive medication. Separate by 2 hours.

Digoxin (Lanoxin)– This medication helps the heart beat more strongly. Taking magnesium (in TheraNatal OvaVite) at the same time as this medication may decrease the absorption of this medication, therefore decreasing the effectiveness. Separate by 2 hours.

Dilantin (phenytoin) – This medication is an anti-epileptic drug used to control seizures. Calcium and magnesium (in TheraNatal OvaVite) can affect absorption of this antiepileptic medication. Separate by 2 hours.

Oral Bisphosphonates (i.e., alendronate (Fosamax), etidronate (Didronel), risedronate (Actonel), ibandronate (Boniva), tiludronate (Skelid)) – These medications alter bone formation and breakdown in the body, slowing down bone loss and helping to prevent bone fractures. Taking magnesium, calcium and or iron (in TheraNatal OvaVite) along these medications can decrease how much bisphosphate the body absorbs. Separate by 2 hours.

Sotalol (Betapace))- This medication helps the heart beat normally in people with certain heart rhythm disorders. Calcium and magnesium (in TheraNatal OvaVite) can affect absorption of this antiarrhythmic medication. Separate by at least 2 hours.

Thiazide diuretics (aka: water pills) – These medications are used to treat high blood pressure, congestive heart failure as well as the accumulation of fluid and swelling (edema) in the body. These medications also increase the amount of calcium in the body. Vitamin D helps your body absorb calcium. Taking TheraNatal OvaVite, which contains 50 mcg (2,000 IU) vitamin D, along with these medications may cause too much calcium in the body.

Thyroid hormone (levothyroxine, Synthroid) - This medication is used to treat an underactive thyroid gland. Iron, calcium, and magnesium (in TheraNatal OvaVite) can reduce absorption of these thyroid hormone medications. Separate by at least 4 hours.

Warfarin (coumadin) - CoQ10 might increase blood clotting, by helping the blood clot, coenzyme Q10 might decrease the effectiveness of coumadin. Be sure to have your blood checked regularly. The dose of your coumadin might need to be changed. Studies also show that low-dose vitamin K (100 mcg) is unlikely to affect INR and may actually help to stabilize INR levels. TheraNatal OvaVite contains 90 mcg of vitamin K and should be safe to take.

Chemotherapy drugs (busulfan, carboplatin, cisplatin, cyclophosphamide (Cytoxan), dacarbazine, thiotepa): Coenzyme Q10 is an antioxidant. There is some concern that antioxidants might lower the effectiveness of some medications used for cancer.
 

REVIEW

 









comments powered by Disqus