Product Description
Elevit with Iodine by Skincare-Delivery
สินค้าเราสั่งใหม่ทุกเดือน ไม่ซื้อเก็บสินค้าไว้นาน ๆ จึงมั่นใจได้ว่าวิตามิน Elevit with Iodine ของร้าน www.skincare-delivery.com ใหม่เสมอ สำคัญจากออสเตรเลียแท้จร้า
ข้อแนะนำ : ควรเตรียมความพร้อมโดยการรับประทาน Elevit with Iodine อย่างน้อย 1 เดือน
ควรรับประทานพร้อมกัน คือ ผู้ชายทาน Menevit ผู้หญิงทาน Elevit with Iodine
ถ้าหากมีการตรวจการตั้งครรภ์และรู้ว่าตัวเองท้องแล้ว ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ทุก ๆ คนด้วยนะคะ วินาทีนี้คุณกำลังจะเริ่มต้นการเดินทางที่ยอดเยี่ยม คุณแม่อาจเต็มไปด้วยคำถามมากมายเช่น "ร่างกายเราจะเปลี่ยนแปลงยังไงน๊า?" และ "ทำยังไงให้ลูกในครรภ์มีการพัฒนาการที่ดีแข็งแรง?"
Elevit Healthy Baby Healthy Mum เป็นวิตามินเตรียมพร้อมตั้งครรภ์ บำรุงครรภ์ และเพิ่มคุณภาพน้ำนม มีอาหารเสริมแร่ธาตุสูตรพิเศาที่ช่วยตอบสนองความต้องการทางโภชนาการของผู้หญิงที่พยายามตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์ และให้นมบุตร
เพราะการตัดสินใจเริ่มต้นมีครอบครัวเป็นจุดสำคัญยิ่งสำหรับครอบครัว Elevit with Iodine Healthy Baby Healthy Mum จึงเป็นอาหารเสริมวิตามินที่ช่วยให้การตั้งครรภ์ง่ายขึ้น เด็กในครรภ์แข็งแรง มีพัฒนาการที่ดี
แต่ละเม็ดประกอบด้วย
สูตรเต็มรูปแบบของ Elevit รวมถึงต่อไปนี้:
| ส่วนผสม | ปริมาณ |
|---|---|
| กรดโฟลิก | 800 ไมโครกรัม |
| เหล็ก | 60 มก. # |
| ไอโอดีน | 220 ไมโครกรัม |
| วิตามินบี (B1) | 1.4 มิลลิกรัม |
| riboflavin (B2) | 1.4 มิลลิกรัม |
| ตลับ | 18 มิลลิกรัม |
|
แคลเซียมแพนโทธี (กรด pantothenic) (B5) |
6 มิลลิกรัม |
| pyridoxine (B6) | 1.9 มิลลิกรัม |
| cyanocobalamin (B12) | 2.6 ไมโครกรัม |
| ไบโอติน | 30 ไมโครกรัม |
| วิตามินซี (C) | 85 มิลลิกรัม |
| cholecalciferol (D) (200IU) | 5 ไมโครกรัม |
| DL-alpha Tocopheryl acetate (E) | 18.7 มิลลิกรัม |
| แคลเซียม | 125 มิลลิกรัม |
| สังกะสี | 11 มิลลิกรัม |
| ซีลีเนียม | 50 ไมโครกรัม |
| แมกนีเซียม | 100 มิลลิกรัม |
| ทองแดง | 1 มิลลิกรัม |
| แมงกานีส | 1.9 มิลลิกรัม |
# Elevit มี 183 มิลลิกรัมเหล็กฟูมาเรตซึ่งสอดคล้องกับ 60 มิลลิกรัมธาตุเหล็ก
Folic Acid 800 ug
Iron (as ferrous fumarate) 60 mg
Iodine (as potassium iodide) 220 ug
Thiamine (Vitamin B1, as thiamine nitrate) 1.4 mg
Riboflavine (Vitamin B2) 1.4 mg
Nicotinamide 18 mg
Pantothenic acid (Vitamin B5, as calcium pantothenate) 6 mg
Pyridoxine (Vitamin B6, as pyridoxine hydrochloride) 1.9 mg
Cyancobalamin (Vitamin B12) 2.6 ug
Ascorbic Acid (Vitamin C) 85 mg
Cholecalciferol (Vitamin D3 200 IU) 5 ug
dl-alpha tocopherol (Vitamin E, as dl-alpha tocopheryl acetate) 18.7 mg
Biotin (Vitamin H) 30 ug
Calcium (as calcium) hydrogen phosphate anhydrous, calcium pantothenate and calcium carbonate 125 mg
Magnesium (as magnesium oxide-heavy and magnesium stearate) 100 mg
Copper (as cupric sulfate anhydrous) 1 mg
Manganese (as manganese sulfate monohydrate) 1.9 mg
Zinc (as zinc citrate trihydrate) 11 mg
Selenium (as sodium selenite) 50 ug
Contains sucrose. Gluten free.
Free of Porcine and Bovine Derived ingredients
Elevit HEALTHY BABY. HEALTHY MUM.
รับประทานอย่างต่ำ 1 เดือนก่อนตั้งครรภ์ และรับประทานต่อเนื่องขณะตั้งครรภ์และให้นมบุตร
เก็บในอุณหภูมิต่ำว่า 25 องศาเซลเซียส หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนและความชื้น
ไม่ใช่เพื่อสุขภาพของคุณเท่านั้นนะคะ เมื่อเราพร้อมที่จะมีดวงใจอีกหนึ่งดวงที่เราต้องดูแล วิตามิน Elevit With Iodine สามารถทำให้คุณมั่นใจขึ้นว่า ลูกของเราจะมีร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ วิตามิน ELEVIT WITH IODINE เป็นวิตามินและแร่ธาตุเสริมที่พัฒนาขึ้นสำหรับสตรีที่ต้องการตั้งครรภ์ สตรีที่ตั้งครรภ์อยู่แล้ว และสตรีที่ต้องการให้นมบุตร จึงสามารถรับประทานได้ตลอดตั้งแต่ก่อนตั้งท้องเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร ระหว่างท้องเพื่อให้บุตรในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง และช่วงระยะเวลาหลังคลอดให้นมบุตร
Elevit with Iodine ( Healthy Baby Healthy Mum) ควรรับประทานก่อนตั้งครรภ์ 1 เดือน
รู้มั้ยค่ะว่า ตั้งแต่ 6-8 สัปดาห์ทารกในครรภ์ ทารกมีการพัฒนาเร็ว การเจริญเติบโตของอวัยวะเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีการตั้งครรภ์ขึ้นจนกระทั่งหลังจากที่ทารกได้เจริญเติบโตและพัฒนาการแล้ว คุณรู้มั้ยว่าต้องมีการใช้เวลาให้ร่างกายสะสมสารอาหาร เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ ถึงแม้ว่าคุณพยายามบำรุงดีที่สุดก็ยังอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะได้สารอาหารครบพอเพียง การเริ่มต้นรับประทาน Elevit with Iodine Healhthy Baby Healthy Mum จึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องรับประทาน Eleivt with Iodine Healthy Baby Healthy Mum อย่างน้อย 1 เดือนก่อนตั้งครรภ์นะคะ เพราะ Elevit จะมีสารอาหารจำเป็นสนับสนุนการพัฒนาสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ค่ะ
Elevit with Iodine ( Healthy Baby Healthy Mum ) ทำให้ทารกในครรภ์แข็งแรง
เมื่อตั้งครรภ์ คุณแม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้นถึง 150% ซึ่งเป็นที่ทราบการว่าถึงแม้มีความพยายามตั้งใจอย่างที่สุดตามหลักโภชนาการแล้วก็ยังคงเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะได้รับครบตามหลักโภชนาการสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ การช่วยให้ทารกในครรภ์แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารอย่างเดียวจึงอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ อาหารเสริมและวิตามิน Elevit with Iodine (Healthy Baby Healthy Mum) สามารถช่วยสร้างสารอาหารที่จำเป็นต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้
Elevit with Iodine ( Healthy Baby Healthy Mum ) ช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
เมื่อคุณแม่ต้องให้นมลูก ความต้องการทางโภชนาการเพิ่มขึ้นในช่วงให้นมลูก ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ยังไม่เพียงพอ Elevit with Iodine ( Healthy Baby Healthy Mum ) ช่วยตอบสนองความต้องการสารอาหารเป็นพิเศษของคุณแม่สำหรับการให้นมลูก เพราะ Elevit with Iodine ( Healthy Baby Healthy Mum ) มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นที่ช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมของคุณแม่ ลูกจะมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง แข็งแรงสมบูรณ์
วิตามินและแร่ธาตุใน Elevit with Iodine ( Healthy Baby Healthy Mum ) ที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาด้านสุขภาพของทารกได้แก่ กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก และ ไอโอดีน
ประโยชน์กรดโฟลิก Elevit with Iodine ( Healthy Baby Healthy Mum ) มี 800 ไมโครกรัม
ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ก่อนที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์นั้น ท่อประสาทได้มีการพัฒนาแล้ว ปิดแล้ว ทารกได้มีการพัฒนาขึ้นส่วนไขสันหลังซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่ง โฟเลตมีส่วนสำคัญสำหรับผู้หญิงที่จะสร้างหลอดประสาทของทารก ซึ่งได้มีการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าการรับประทานกรดโฟลิกจะช่วยลดความเสี่ยงของโรค Spina Bifida
ประโยชน์ไอโอดีน Elevit with Iodine ( Healthy Baby Healthy Mum ) มี 220 ไมโครกรัม
ไอโอดีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาการทางสมองของทารก มีทารกจำนวนมากขาดไอโอดีน ทำให้ด้อยทางปัญญา ดังนั้นคุณแม่ควรรับประทานไอโอดีนที่เพียงพอ
ประโยชน์ธาตุเหล็ก Elevit with Iodine ( Healthy Baby Healthy Mum ) มี 60 มิลลิกรัม
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ต้องการธาตุเหล็กที่เพิ่มขึ้น เพื่อการเจริญเติบโตของทารกและรก ธาตุเหล็กช่วยป้องกันการขาดธาตุเหล็กในอาหาร ซึ่งธาตุเหล็กเป็นสิ่งสำคัญมากในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่จะทำให้แน่ใจว่าคุณแม่ได้รับธาตุเหล็กที่เพียงพอต่อความต้องการ
Elevit คืออะไร?
Elevit เป็นวิตามินและอาหารเสริมสูตรพิเศษที่ช่วยตอบสนองความต้องการของผู้หญิงที่พยายามที่จะตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เป็นวิตามินและอาหารเสริมที่ช่วยสนับสนุนทางโภชนา
Elevit เป็นวิตามินและแร่ธาตุสูตรพิเศษสำหรับตั้งครรภ์เพื่อตอบสนองทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้นของผู้หญิงที่พยายามมีบุตร ตั้งครรภ์ และให้นมบุตร
ทำไม วิตามินและอาหารเสริม Elevit จึงได้รับการแนะนำให้รับประทาน?
Elevit มีกรดโฟลิค 800mcg กรดโฟลิกได้รับการพิสูจน์จากแพทย์ว่าลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรค Spina bifada นอกจากนี้ยังมี ธาตุเหล็กช่วยป้องกันการขาดธาตุเหล็ก ซึ่ง ธาตุเหล็กและไอโอดีนช่วยพัฒนาการสมองของทารกด้วย
Elevit แตกต่างจากอาหารเสริมวิตามินยี่ห้ออื่นอย่างไร?
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมช่วยตั้งครรภ์ในประเทศออสเตรเลียมีหลายยี่ห้อนะคะ ซึ่งเป็นวิตามินพื้นฐานที่ช่วยในการตั้งครรภ์ สำหรับ Elevit จะเป็นสูตรพิเศษเพื่อตอบสนองผู้หญิงที่พยายามจะมีลูก รวมถึงบำรุงครรภ์ และบำรุงน้ำนมเมื่อคลอดลูกแล้ว จะเลิกรับประทานเมื่อเลิกให้นมลูกค่ะ Elevit จะช่วยให้คุณแม่และลูกได้รับโภชนาการทางอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ ในสูตร Elevit มี กรดโฟลิค 800mcg ประโยชน์กรดโฟลิกได้รับการพิสูจน์จากแพทย์ว่าช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรค spina bifida นอกจากนี้ยังมี ธาตุเหล็กเพื่อป้องกันการขาดธาตุเหล็ก ไอโอดีนและธาตุเหล็กจะช่วยในการพัฒนาสมองของทารก ซึ่ง Elevit มีสองอย่างนี้เพียงพอต่อความต้องการในหนึ่งวัน รับประทานแค่เพียงวันละ 1 เม็ดหลังอาหารเช้า เพียงพอต่อความต้องการในหนึ่งวัน ซึ่งแตกต่างจากวิตามินช่วยตั้งครรภ์ยี่ห้ออื่นที่ต้องทาน เช้า 1 เม็ด เย็น 1 เม็ด รวมต้องรับประทานถึง 2 เม็ด
ทำไม Elevit มีกรดโฟลิคสูงถึง 800mcg?
สูตร Elevit สูตรเดิมได้ช่วยป้องกันโรค spina bifida สูตรใหม่ยังคงมีโฟลิค 800mcg เช่นเดิมแต่ได้รับการปรับปรุงให้เพิ่ม ไอโอดีนเพิ่มมากขึ้น
ตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ อาหารเสริมและวิตามิน Elevit ช่วยในเรื่องใดบ้าง?
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และรับประทาน Elevit เพิ่มจะช่วยให้แม่และเด็กได้รับโภชนาการทางอาหารครบถ้วนตลอดระยะเวลาตั้งท้องแรก ๆ จนคลอด รวมถึงตลอดระยะเวลาให้นมลูก เนื่องจากตอนตั้งครรภ์และให้นมลูก มีความต้องการสารอาหาร วิตามิน มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ในระหว่างตั้งครรภ์ Elevit จะช่วยป้องกันการขาดธาตุเหล็ก เช่นเดียวกับกรดโฟลิกและไอโอดีนซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาในการตั้งครรภ์ รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุตัวอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในระดับสูงตลอดการตั้งครรภ์ ได้แก่ สังกะสี, แคลเซีย, vitamin C, vitamin B6 และ B12
รับประทาน Elevit ยังไง เวลาไหน?
Elevit สามารถรับประทานช่วงใดก็ได้ใน 1 วัน แต่ดีที่สุดคือ หลังอาหารเช้าให้รับประทานทันที หากคุณแม่ที่ทานวิตามินยาก สามารถหักครึ่งทานได้ กรณีคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้อง อาจรับประทาน ครึ่งเม็ด
Elevit มีน้ำตาลมั้ย?
Elevit มีจำนวนแลคโตสนิดหน่อยค่ะ
Elevit มียีสต์ในส่วนผสมมั้ย?
ไม่มียีสต์ในส่วนผสม Elevit
Elevit มีน้ำตาลซูโครสมั้ย?
Elevit มีน้ำตาลซูโครสในส่วนผสมเล็กน้อย
Elevit มีส่วนผสมของไข่มั้ย?
ไม่มีค่ะ
Elevit มีส่วนผสมถั่วลิสงในนั้นมั้ย?
ไม่มีค่ะ
Elevit มีสารกันบูดมั้ย?
ไม่มีค่ะ
Elevit มีกำมะถันมั้ย?
ไม่มีค่ะ
Elevit ได้รับการรับรองฮาลาลมั้ย?
ใช่ค่ะ Elevit ได้รับการรับรองฮาลาลแล้ว
Elevit เหมาะสำหรับคนรับประทานมังสวิรัติมั้ย?
Elevit มีส่วนผสมวิตามิน D ซึ่งได้มาจากขนแกะค่ะ ไม่ใช่มังสวิรัติ
Elevit ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้มั้ย?
ได้ค่ะ Elevit ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องระหว่างการตั้งครรภ์ ควรรับประทาน Elevit เมื่อพบอาการคลื่นไส้และอาเจียน
ELEVIT WITH IODINE เป็นวิตามินและและแร่ธาตุที่พัฒนาขึ้นเพื่อบำรุงร่างกายก่อนการตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และระหว่างการให้นมบุตร ของ Buyers Germany เป็นสูตรใหม่ที่ผสมไอโอดีน ซึ่งเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการฝังตัวและเจริญเติบโตของตัวอ่อน , มีธาตุเหล็ก , โฟเลต รวมถึงแร่ธาตุที่สำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในระหว่างการตั้งครรภ์และให้นมบุตร
ELEVIT WITH IODINE เป็นวิตามินสำหรับเตรียมการตั้งครรภ์พิสูจน์แล้วจากผู้ใช้ทั่วโลกกว่าหนึ่งล้านคนที่ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์
ELEVIT WITH IODINE มีส่วนผสมของ Folic Acid 800 mcg ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดความผิดปกติของท่อประสาท เช่น โรคเนื้อเยื่อหุ้มไขสันหลังปิดไม่สนิทที่เรียกว่า โรคสไปนา ไบฟิดา Spina Bifida ได้ถึง 92% ซึ่งเป็นความผิดปกติของกระดูกสันหลังที่เกิดจากแนวโค้งของ Vertebral arches ทั้งสองด้านไม่เชื่อมต่อ ระหว่างที่เด็กเติบโตในครรภ์อีกด้วย (อ้างอิงจากข้อมูล Wikipedia)
ELEVIT WITH IODINE ประกอบด้วยธาตุเหล็กชนิด Ferrous Fumarate 183 มิลลิกรัม เพื่อจะให้ธาตุเหล็ก(Iron) 60 มิลลิกรัม ซึ่งมากเพียงพอสำหรับสตรีตั้งครรภ์ที่มีโอกาสเสี่ยงจากการขาดธาตุเหล็ก และแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์เพื่อช่วยป้องกันภาวะการขาดธาตุเหล็ก
ELEVIT WITH IODINE มีไอโอดีน (Iodine) เพื่อช่วยในการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ ไอโอดีนเป็นสิ่งจำเป็นสำหคับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และเด็กทารก
ELEVIT WITH IODINE ใน 1 เม็ด ประกอบไปด้วย ธาตุเหล็ก ฟอลิก และไอโอดีนในระดับสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับวิตามินรวมสำหรับการตั้งครรภ์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีอยู่ตามท้องตลาด
ELEVIT WITH IODINE "ควรรับประทานวันละ 1 เม็ดหลังอาหารเช้า ล่วงหน้าก่อนการตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 เดือน ถึง ช่วงให้นมบุตร"
ELEVIT WITH IOINE ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ต่อสุขภาพคุณแม่และบุตร
ELEVIT WITH IODINE ขนาดบรรจุกล่องละ 100 เม็ด
ELEVIT WITH IODINE เป็นวิตามินที่กุมารเวชทั่วโลกแนะนำสำหรับสตรีต้องการเตรียมพร้อมมีบุตร กำลังตั้งครรภ์ และระหว่างให้นมบุตร
"นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย"
Bayer Australia Limited
วิธีรับประทาน
ทานหลังอาหารเช้าวันละ 1 เม็ดทุกวัน ถ้าลืมให้ทานทันที ไม่ต้องทานมากกว่า 1 เม็ดนะคะ เพราะมากเกินไป
ประโยชน์ของ ELEVIT WITH IODINE
-ก่อนตั้งครรภ์
ELEVIT WITH IODINE เป็นวิตามินรวมเสริมที่ดีที่สุดที่มีไอโอดีนสำหรับคุณแม่ที่เตรียมตัวมีบุตร และควรรับประทานไปตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ จนถึงการให้นมบุตร
- ตั้งครรภ์
ELEVIT WITH IODINE ช่วยคุณแม่ตั้งครรภ์ได้อย่างมาก เพราะนี่เป็นส่วนผสมหนึ่งเดียวของ ELEVIT WITH IODINE ซึ่งประกอบไปด้วย folic acid ถึง 800mcg และยังประกอบไปด้วยวิตามินหลัก ๆ อีก 10 ชนืด และวิตามินเสริมอีกถึง 8 ชนิด ELEVIT WITH IODINE ประกอบไปด้วยธาตุเหล็กในระดับสูงเพื่อป้องกันคุณแม่ขาดธาตุเหล็กระหว่างตั้งครรภ์
-หลังคลอด (ให้นมบุตร)
เมื่อลูกน้อยคลอด มันเป็นสิ่งที่ดีที่คุณจะรับประทาน ELEVIT WITH IODINE คุณอาจสูญเสียธาตุเหล็กอย่างมากในช่วงการท้องและให้กำเนิดบุตร มีความจำเป็นเป็นอย่างมากที่จะรับประทาน ELEVIT WITH IODINE เพื่อให้คุณแม่มีน้ำนมที่มีธาตุอาหารเพียงพอสำหรับลูกน้อย ELEVIT WITH IODINE ประกอบไปด้วย folic acid 800 mcg ช่วยป้องกันโรค Spina Bifida ที่อาจเกิดกับลูกน้อยของคุณ และยังประกอบด้วยธาตุเหล็กและไอโอดีนซึ่งช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อย
บทบาทของไอโอดีน
-ไอโอดีนเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเติบโตและพัฒนาสมอง
-ไอโอดีนเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และเด็ก ๆ
วิธีรับประทาน
- รับประทาน Elevit ตอนเช้าหลังอาหารดีที่สุดค่ะ แต่ถ้าไม่สามารถทานตอนเช้าได้ สามารถทานตอนไหนก็ได้ค่ะ
- หากลืมรับประทาน Elevit ให้รับประทานทันทีตอนนั้น
- ถ้าลืมรับประทาน 1 วัน อีกวันไม่จำเป็นต้องทาน 2 เม็ดนะคะ ให้ทานแค่ 1 เม็ดพอ เพราะวิตามินสามารถใช้งานได้แค่ 1 เม็ดอยู่ดีค่ะ
การเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยในครรภ์ที่เราแบ่งออกเป็น 3 ช่วง
ช่วงที่ 1
ตั้งครรภ์ 1-12 สัปดาห์
การตั้งครรภ์เราจะคำณวนจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายของคุณแม่ เพราะมันยากมากที่จะระบุวันตั้งครรภ์ที่แน่นอนจริง ๆ ทันทีที่ไข่ได้ปฏิสนธิในรอบ 3 สัปดาห์ ระดับฮอร์โมนของการตั้งครรภ์จะเริ่มมีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็นผลให้เราอาจพบกับอาการดังต่อไปนี้
" 80 % ของผู้หญิงอาจพบ
อาการแพ้ท้อง
คลื่นไส้ อาเจียน
ใน 3 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์"
---การแพ้ท้อง อาจสูงถึง 80% ของผู้หญิงตั้งครรภ์ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เนื่องจากฮอร์โมนการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น บางทีการแพ้ท้องก็ไม่ได้เกิดใน 3 เดือนแรกเสมอไป คุณแม่บางคนมีอาการแพ้ท้องใน 3 เดือนต่อมา และบางคนอาจไม่มีการแพ้ท้องเลย
หากมีอาการแพ้ท้องนะคะ แนะนำให้รับประทานน้อยลง หลีกเลี่ยงอาหารที่มัน ๆ เยิ้ม ๆ อาหารที่มีรสเผ็ด ควรดื่มน้ำในปริมาณที่มาก
---การเปลี่ยนแปลงของเต้านม คุณแม่จะรู้สึกว่าหน้าอกเริ่มจะใหญ่ขึ้นและเจ็บ หัวนมมีขนาดใหญ่สีเข้มขึ้น
---คุณแม่รู้สึกอ่อนเพลีย ง่วงนอน
---ขี้โมโห มันเป็นเรื่องปกติมากที่เราจะหงุดหงิด+ขี้โมโห เนื่องจากระดับฮอร์โมนในร่างกายที่สูงขึ้น สามี คนรอบข้างต้องอดทนและเข้าใจภาวะนี้ให้มาก
---ความอยากอาหารบางอย่าง(และ)ไม่อยากอาหารบางอย่าง บางทีคุณแม่ก็รู้สึกอยากทานอาหารอะไรที่แปลก ๆ หรืออาหารที่ทานประจำแต่รู้สึกเอียนไม่อยากทาน
---ปัสสาวะบ่อยขึ้น การตั้งครรภ์จะมีการเพิ่มขึ้นของของเหลวในร่างกาย มดลูกถูกกดบนกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้ต้องเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะถี่ขึ้น หลายรอบขึ้น
---ท้องผูก เนื่องจากระบบย่อยอาหารของคุแม่เริ่มชะลอตัวลงทำให้คุณแม่ท้องผูกได้ง่าย ควรรับประทานอาหารที่มีเส้นใยมาก ๆ นะคะ
ความอัศจรรย์เกิดขึ้นแล้วในร่างกายของเรา
--- ประมาณ 7 วันหลังจากมีการปฏิสนธิ ตัวอ่อนจะฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูกของคุณแม่แล้วค่ะ เริ่มมีสายสะดือ ถุงน้ำคล่ำห่อหุ้มเพื่อปกป้องตัวอ่อน
--- ประมาณ 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์หน้าท้องเริ่มบวมเล็กน้อย
--- อวัยวะสำคัญเริ่มสร้างขึ้น
--- อวัยวะเพศเริ่มพัฒนาขึ้น
--- แขนและนิ้วมือ+นิ้วเท้า+เล็บน้อย ๆ เริ่มมีขึ้น
--- เริ่มมีใบหน้าเกิดขึ้น
--- ลูกน้อยจะมีความยาวโดยประมาณ 6 เซนติเมตรโดยวัดความยาวจากหัวถึงด้านล่าง
13-26 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์
เป็นช่วงสัปดาห์ที่คุณแม่มีความสุข เพราะอาการแพ้ท้องเริ่มเบาบางลงสำหรับคนที่แพ้ท้อง อาการเจ็บเต้านม ง่วงนอน อ่อนล้าเริ่มดีขึ้น แต่จะมีอาการใหม่อื่น ๆ ปรากฏขึ้นเช่น
--- อาการปวดเมื่อย คุณแม่จะรู้สึกปวดเมื่อยด้านข้างของร่างกาย ใต้ท้อง และขณะเวลาที่มีการเหยียดร่างกาย น้ำหนักคุณแม่จะเพิ่มขึ้นจึงจะทำให้คุณแม่ปวดหลัง และอาจปวดที่ขาด้วย ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดนี้
--- อาการคัดจมูก เนื่องจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น อาจมีอาการคัดจมูกและเลือดกำเดาไหล
--- อาการเหงือกนุ่ม ซึ่งเหงือกจะมีแนวโน้มมีเลือดออกง่ายขึ้น คุณแม่จึงควรเพิ่มความใส่ใจในสุขอนามัยในช่องปาก ควรเลือกแปรงสีฟันที่นุ่ม ไม่แข็งเกินไป ไม่ทำให้เหงือกอักเสบ เลือดออก
" บริเวณผิวท้องอาจมีอาการคัน ๆ
ลูกน้อยกำลังเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
ควรใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำนะคะ
เพื่อป้องกันอาการท้องลาย "
--- มีอาการเส้นเลือดขอด ริดสีดวงทวาร เส้นเลือดของเราจะอ่อนแอและเป็นเส้นเลือดขอด จะไม่ค่อยถ่ายจนทำให้เป็นริดสีดวงทวารระหว่างตั้งครรภ์ ดังนั้นคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการยืน หรือ นั่ง เป็นเวลานานเกินไป หากเป้นริดสีดวงทวารควรปรึกษาแพทย์
--- อาการตกขาว เป็นเรื่องปกตินะคะที่จะมีเมือกขาวหรือเรียกว่าระดูขาว ตกขาวเกิดขึ้นในเวลานี้ มันจะช่วยให้ช่วงคลอดลูกทำได้ง่าย แต่ถ้าเห็นสีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สีขาว อย่าปล่อยไว้นะคะ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ
--- สีผิวเปลี่ยนไป เนื่องจากฮอร์โมนการตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดรอยดำบนใบหน้า ควรหลลเลี่ยงแสงแดด ใส่หมวก เนื้อแขนยาว ทาครีมกันแดด
--- อาการหายใจถี่ขึ้น เนื่องจากปอดคุณแม่ต้องการออกซิเจนมากขึ้นเพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นคุณแม่จะรู้สึกว่าหายใจสั้นหรือหายใจเร็วขึ้นบ้างเล็กน้อย
--- อาการอยากอาหาร เจริญอาหาร เนื่องจากลูกน้อยในครรภ์เริ่มเติบโตมากขึ้นทุก ๆ วัน คุณแม่จึงรู้สึกหิวตลอดเวลา ถ้าหิวอาจเลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นผลไม้ หรือ โยเกิร์ต
ในช่วงไตรมาสที่ 2
--- คุณจะเริ่มรู้สึกลูกเริ่มเคลื่อนไหวในท้องประมาณสัปดาห์ที่ 18-20
--- ลูกน้อยเคลื่อนไหวและตอบสนองต่อการสัมผัส+เสียง
--- เปลือกตาเริ่มเปิด ขนคิ้ว ขนตา เริ่มมองเห็นได้
--- ผิวมีสารสีขาวครีมเรียกว่า vernix
--- ผมเริ่มขึ้นที่ศรีษะ
--- ลายนิ้วมือเริ่มเกิดขึ้นแล้ว
--- ลูกน้อยของคุณจะมีความยาวประมาณ 23 เซนติเมตรวัดจากหัวถึงเท้า
ไตรมาสที่ 3 สัปดาห์ที่ 27 จนคลอด
น่าตื่นเต้นจริง ๆ คุณแม่คุณพ่อเริ่มจะได้เห็นหน้าลูกน้อยแล้ว นี่เป็นช่วงสุดท้ายของลูกในครรภ์ คุณแม่อาจจะรู้สึกอึดอัดมากในสัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ ลูกน้อยยังคงเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ ในสถานที่คับแคบมากขึ้น ขอให้คุณแม่พักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้นะคะ
อาการที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
--- เท้าบวม มือบวม เนื่องจากของเหลวส่วนเกินสามารถทำให้มือและเท้าของคุณแม่บวม ใบหน้าของคุณแม่จะรู้สึกพองใหญ่
--- มีน้ำนมออกมา หัวนมของคุณแม่อาจจะเริ่มต้นที่จะหลั่งนมน้ำเหลือง (Colostrum) เตรียมพร้อมเพื่อลูกน้อยจะได้ดูด คุณแม่อาจต้องสวมแผ่นรองเต้านม เพื่อไม่ให้เลอะเทอะ
" คุณแม่รู้สึกอ่อนแอ
ร่างกายคุณแม่เตรียมพร้อม
สำหรับการคลอด "
--- คุณแม่จะมีน้ำหนักมาก น้ำหนักของรก น้ำคร่ำ ไขมันและของเหลวในร่างกายเพิ่มขึ้น
--- สัปดาห์ที่ 37 ครบวาระแล้ว
--- ลูกจะเริ่มเอาหัวลงไปในกระดูกเชิงกรานเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด
--- ระบบร่างกายของลูกน้อยจะได้รับการพัฒนาและพร้อมที่จะทำงานเมื่อออกไปสู่โลกภายนอก
--- ขนอ่อนนุ่ม ๆ ของลูกน้อยจะหายไป
--- ลูกน้อยของคุณจะมีความยาวประมาณ 46-56 เซนติเมตร วัดความย้าวตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า
ร่างกายของฉัน
การกำเนิดลูกน้อยจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของร่างกายคุณแม่ช่วงใหม่นั่นก็คือช่วงเวลาแห่งกายให้นมทารกน้อย
สุขภาพของเต้านม
หากคุณเป็นคุณแม่มือใหม่ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นอะไรที่คุณไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ผู้หญิงที่ได้ใช้เวลากับลูกตามธรรมชาติจะพบว่ามันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุด แต่ก็ยังมีความยากลำบากของคนเป็นแม่ และบางทีก็พบว่าร่างกายเรามีความผิดปกติและต้องใช้ความอดทนมุ่งมั่นอย่างมากในการให้นมลูก คุณจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อการปรับตัวอย่างมาก ช่วงเวลาเริ่มต้นของการให้นมลูกต้องบำรุงสุขภาพเต้านมให้มากๆ และนี่คือตัวอย่างปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการให้นม
ปัญหาของนม
สำหรับคุณแม่ที่น้ำนมเยอะ ในช่วง 8 สัปดาห์แรกเป็นช่วงที่ผลิตน้ำนมเกินกว่าที่ลูกน้อยจะกินได้หมด เพราะร่างกายกำลังปรับระดับให้เข้ากับความต้องการที่ควรจะเป็น หน้าอกอาจเกิดปัญหาเลือดคั่งหรือทารกจะต้องดื่มนมอึกใหญ่เกินไปจนต้องไอหรือสำลักออกมา นั่นก็เป็นสัญญาณที่ส่อว่าตอนนี้ร่างกายผลิตน้ำนมเยอะเกินไปแล้ว เพื่อการแก้ปัญหาคุณอาจใช้วิธีเก็บน้ำนมออกก่อนแล้วค่อยให้ทารกดูดจากเต้าทีหลัง หรือเปลี่ยนข้างบ่อยๆ
- นมไม่พอ
หากน้ำนมของคุณไม่พอกับความต้องการ นั่นเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของทารก ยิ่งทารกต้องการดูดนมมากเท่าไหร่ ร่างกายแม่ก็จะผลิตไปเท่านั้น เป็นทฤษฏีหนึ่งในเรื่องการให้นมเด็ก บางครั้งการผลิตน้ำนมอาจช้าหรือหยุดไปถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการให้นม หรือให้นมลูกไม่บ่อยเท่าเดิม เช่นการสลับให้นมจากขวดนม หรือการใช้จุกนมหลอก ก็มีผลต่อการผลิตน้ำนมได้เช่นกัน
- น้ำนมรั่ว
เต้านมรั่วไหลเป็นเรื่องปกติของคุณแม่ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในไม่กี่อาทิตย์แรกหลังคลอด มันเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกแต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าร่างกายกำลังพยายามผลิตน้ำนมที่เพียงพอให้ลูกได้ เราไม่สามารถหยุดปัญหาน้ำนมรั่วนี้ได้ ผู้หญิงหลายคนจึงเลือกใช้แผ่นซับน้ำนมเพื่อซับน้ำนมระหว่างที่ลูกไม่ได้ดูด แต่เมื่อคุณให้น้ำนมได้บ่อยขึ้นน้ำนมก็จะรั่วได้น้อยลง
- อาการเต้านมอักเสบ
นมอักเสบเป็นผลมาจากท่อนมอุดตันหรือน้ำนมอุดตัน ทำให้เนื้อเยื่อเต้านมเกิดอักเสบขึ้นมาได้ เมื่อคุณมีอาการเต้านมอักเสบอาจจะรู้สึกถึงก้อนที่เกิดอาการได้เมื่อคลำดู และภายนอกอาจเกิดอาการอักเสบเป็นสีแดง, เจ็บบวม หรือน้ำอกร้อนเช่นเดียวกับเมื่อเรามีอาการไข้หวัด มีการไข้และปวดหัวนั่นเอง เมื่อมีอาการเต้านมอักเสบคุณต้องทนให้นมลูกต่อไปถึงจะเจ็บปวด นั่นเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุดที่แพทย์จะให้คำแนะนำ โดยเฉพาะถ้าอักเสบแล้วยังมีก้อนอยู่ 2 – 3 วันก็ต้องยิ่งให้ทารกดูดเพื่อเคลียร์ให้อาการหายไป
- อาการเจ็บหัวนม
เป็นอาการที่เหล่าคุณแม่ร้องเรียนและปรึกษาหมอมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าถึงจะมีคนเป็นกันเยอะคุณจะไม่ควรละเลยอาการนี้ หากหัวนมมีอาการแห้งแตก หรือมีเลือดออกหัวนมถือว่าเป็นอาการที่ผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ ยกเว้นแต่ว่าอาการเหล่านี้เกิดในวันแรกๆที่ให้นมลูกเพราะคุณแม่มือใหม่มักจะรู้สึกไม่สบายเมื่อหัวนมถูกยืดขยายเพื่อให้นมทารกซึ่งหลังจากเริ่มให้นมสักพักอาการสามารถหายไปได้เอง
สาเหตุต่างๆ ของอาการเจ็บหัวนม
- ลิ้นล็อก
- ปากอักเสบ
- ตุ่มแดง มีน้ำ ออกผื่น
- ฟันขบ
- ให้นมระหว่างตั้งครรภ์
อาการเจ็บหัวนมนี้จะมีผลต่อทารกหรือไม่ สังเกตได้จากอาการต่อไปนี้
- ให้นมบ่อยมาก
- ใช้เวลาให้นมนานๆ
- ทารกน้ำหนักขึ้นน้อยกว่าเกณฑ์
- ทารกไม่ยอมนอนสงบหลังจากให้นม
จะทำอย่างไรกับอาการเจ็บหัวนม
จะดีที่สุดหากคุณได้คุยกับแพทย์หรือที่ปรึกษาเรื่องการให้นมเด็กเพื่อแก้ปัญหาได้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หลีกเลี่ยงการเชื่อข้อมูลออนไลน์เพราะอาจคลาดเคลื่อนหรือไม่เหมือนกับอาการที่แท้จริงของคุณ
- ท่าให้นมแม่
เป็นกิจกรรมประจำที่ต้องปรับไว้ เพื่อความสะดวกสบายและเป็นธรรมชาติมากที่สุด การเลี้ยงลูกด้วยนมเป็นสิ่งที่ไม่ง่าย มีความซับซ้อน โชคดีที่มีตำแหน่งในการจัดวางเด็กเพื่อให้นมที่คุณลองได้หลายท่า ลองฝึกหลายๆ ท่าเพื่อค้นพบตำแหน่งที่คุณจะรู้สึกว่าสบายที่สุด
- ท่าเปลถือ
รองรับศรีษะทารกด้วยข้อพับแขน (แขนเดียวกับเต้านม) โดยวางมือประคองไว้ด้านใต้ตัวทารก วางจมูกของเด็กให้ตรงกับหัวนม เอาอีกมือประคองเต้านมไว้ และเพื่อความสะดวกของคุณแม่ให้นั่งที่เก้าอี้ที่มีพนักพิงและพนักแขน หรือหมอนสำหรับให้นมที่มีที่วางแขนช่วยให้คุณแม่สบายขึ้น
- ท่าแขนข้าม
เป็นท่าย้อนกลับของท่าเปล คือแทนที่จะใช้แขนข้างเดียวกับเต้านม ให้ใช้แขนอีกข้างหนึ่งประคองตัวเด็ก มือของคุณจะประคองศรีษะของทารก และท่านี้ควรนั่งที่เก้าอี้มีพนักพิง มีเท้าแขนหรือหมอนให้นมเด็ก
- ท่าถือลูกฟุตบอล
ถือลูกน้อยไว้ด้านข้างใต้แขนคุณ ชี้ขาไปด้านข้างลำตัวแม่ มือแม่จับที่ท้ายทอยลูกแล้วกอดใว้ตรงสีข้าง ลูกดูดนมจากเต้าเดียวกับแขนนั้น อีกมือหนึ่งใช้ประคองนมไว้
- ตำแหน่งด้านข้าง
ตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงที่ผ่าคลอด เพราะแม้ว่าในตอนกลางคืนคุณก็สามารถให้นมลูกในท่านอนได้ จัดท่าทางด้วยการนอนตะแคงข้างที่จะให้นม จัดหมอนไว้ด้านหลังเพื่อความสบาย หนุนหมอนที่คอคุณแม่และใช้หมอนรองเข่าได้ หันหน้าเข้าหาลูกแล้วหนุนหัวลูกด้วยแขน หรือมืออีกข้างหนึ่งก็ได้แล้วแต่ความถนัด หากต้องการเปลี่ยนข้างให้พลิกกลับด้านเท่านั้น
- ให้นมลูกด้วยท่าสบายๆตามธรรมชาติ
เป็นการจัดท่าให้นมที่ดีที่สุดถือว่าเป็นท่าตามธรรมชาติ ช่วยให้ลูกน้อยใช้สัญชาตญาณธรรมชาติในการหาแหล่งอาหารเอง คุณแม่กึ่งนั่งกึ่งนอนเอนหลังด้วยการใช้หมอนหนุนหลังไว้ วางทารกไว้ด้านหน้าให้เท้าอยู่ที่ต้นขาคุณ ให้ทารกใช้สัญชาตญาณตัวเองค้นหาเต้านมและดูดนม เด็กอาจควานหาสะเปะสะปะแต่ก็ถือว่าเป็นปกติ
- เคล็ดลับการให้นมลูกด้วยนมอื่นๆ
คุณจำเป็นต้องรู้ว่าโภชนาการสำหรับแม่มีผลต่อโภชนาการของลูก ต้องมีการรับสารอาหารที่หลากหลายไปพร้อมๆกับการให้นมทารก และต้องมีการปรับวิธีการดำเนินชีวิตเพื่อชีวิตใหม่อีกคนหนึ่งเพื่อการให้นมลูกที่ดีที่สุด ลองอ่านข้อมูลโภชนาการที่เราจะให้คำแนะนำด้านโภชนาการที่เหมาะกับคุณ สารอาหารที่ร่างกายต้องการ และเคล็ดลับต่างๆเพื่อเตรียมความพร้อม และความท้าทายของการเป็นแม่ผู้ให้นมลูก
วิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่ ElevitBreastfeeding
เสริมโภชนาการให้น้ำนมแม่ อาหารเสริมจาก Elevitที่มีสารอาหารเพื่อบำรุงการสร้างน้ำนมแม่และเพิ่มวิตามินให้ลูกน้อย วิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่ElevitBreastfeeding
หนึ่งในช่วงเวลาสำคัญสำหรับทารก คือการได้รับสารอาหารที่สมบูรณ์จากคุณแม่ น้ำนมแม่เป็นแหล่งสารอาหารที่ไม่มีสิ่งใดเทียบเคียงได้ การให้น้ำนมลูกเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างกายคุณแม่มีความจำเป็นและต้องการสารอาหารที่เปลี่ยนไป และต้องการสารอาหารเฉพาะ ร่างกายต้องการอาหารที่มีโภชนาการสูงและดีต่อการสร้างน้ำนม เพื่อส่งต่อสารอาหารเหล่านี้ไปให้ลูกน้อย แต่เราเข้าใจดีว่าคุณแม่หลายๆ คนไม่ได้มีเวลามากนักกับการสรรหาอาหารดีๆ เพราะลูกต้องการดื่มนมเกือบตลอดเวลา
สารอาหารใน วิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่ElevitBreastfeeding
วิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่ElevitBreastfeedingเป็นสารอาหารที่สร้างมาตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ เพื่อสนับสนุนโภชนาการที่จำเป็นสำหรับพัฒนาการและสุขภาพของลูกน้อยในช่วงเวลาให้นมลูก 6 เดือนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่ให้พลังงาน ทำให้คุณแม่ร่างกายแข็งแรง
สารอาหารหลักใน วิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่ElevitBreastfeeding
วิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่จาก ElevitBreastfeedingมีสารอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการด้วยวิตามินและแร่ธาติ กับโอเมก้า 3 ซึ่งมีความสำคัญอย่างสูงสำหรับพัฒนาการและสุขภาพโดยรวมของทารกตั้งแต่แรกเกิดในช่วงขวบปีแรก การเพิ่มโภชนาการเหล่านี้จะช่วยเสริมพัฒนาการสำคัญต่างๆ เช่น ด้านสายตา, สมอง, การสร้างพลังงาน และการสร้างภูมิคุ้มกัน
สำหรับผู้ที่กำลังทาน Elevit
สำหรับผู้หญิงที่กำลังใช้ Elevitสำหรับเตรียมตั้งครรภ์เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ และช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์ สามารถใช้วิตามินเสริมตัวเดิมจนกว่าจะคลอด วิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่ElevitBreastfeedingตัวนี้เป็นวิตามินหลังจากคลอดลูกแล้ว เป็นขั้นตอนต่อไปเพื่อสนับสนุนร่างกายคุณแม่ ให้โภชนาการเพิ่มเติมอีกด้านหนึ่งของร่างกายเพื่อเตรียมรับบทบาทความเป็นแม่ในขั้นต่อไป
ส่วนผสมที่สำคัญของต่อร่างกายคุณแม่ที่กำลังให้น้ำนมลูก
Betacarotene :ช่วยบำรุงด้านการเสริมสุขภาพ และพัฒนาการด้านสายตาโดยรวมของลูกน้อย
Omega-3 (DHA) :ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของสมอง และสายตาของทารก
Iodine :ไอโอดีน ช่วยการพัฒนาการสมอง
วิตามินบีรวม และธาตุเหล็ก : ช่วยให้พลังงานที่ร่างกายต้องการ
Calcium :รักษาและช่วยเพิ่มพัฒนาการของกระดูกและฟัน
Zinc & Vitamin C :สร้างระบบภูมิคุ้มกันของทารก
ทำไมคุณถึงต้องการวิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่ ElevitBreastfeeding
- Elevitเป็นวิตามินเสริมจากผู้ผลิตวิตามินสำหรับการตั้งครรภ์อันดับ 1 ในออสเตรเลีย
- ปรับสูตรพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้นของคนเป็นแม่ เพื่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยเฉพาะ
- มีส่วนผสมสำคัญสำหรับร่างกายแม่และทารก ด้วยLutine, Betacarotene, และ Omega-3 ที่ช่วยเสริมพัฒนาการของลูกน้อย
- เสริมพัฒนาการด้านสุขภาพ สมอง และสายตาของทารกแรกเกิด
- ช่วยให้คุณแม่สามารถมอบของขวัญเป็นสุขภาพที่ดีแต่แรกเกิดให้ทารก
วิธีการรับประทาน วิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่ElevitBreastfeeding
ทาน วิตามินเสริมเพื่อน้ำนมแม่ElevitBreastfeeding วันละ 1 แคปซูลตั้งแต่หลังคลอด สามารถเปลี่ยนวิตามินที่ทานจาก Elevitตัวเดิมได้เลย
โภชนาการของคุณแม่
อาหารสุขภาพสำหรับบำรุงน้ำนมแม่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของทารก เช่นเดียวกับสุขภาพของคุณเอง การผลิตน้ำนมเพื่อลูกน้อยก็หมายถึงคุณต้องเพิ่มปริมาณสารอาหารให้มีวิตามินและแร่ธาตุมากพอ
ฉันควรจะทานอะไร
หากคุณกำลังหาแนวทางที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการสำหรับคุณแม่ที่กำลังให้น้ำนม และยังไม่ได้คำตอบที่ตรงใจ องค์การด้านอาหารของออสเตรเลียที่ตีพิมพ์ในวารสการแห่งชาติปี 2013 แนะนำอาหารสำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ให้ทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช ข้าวและเนื้อสัตว์ติดมันแต่พอดี ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ เช่นโยเกิร์ต และอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าประมาณ 8 แก้วต่อวัน เพราะผู้หญิงหลายคนมักมีปัญหาคอแห้งมากๆ เมื่อให้นมลูก
นอกจากนั้นแล้ว ควรคิดทุกครั้งก่อนเลือกทานอาหารอะไรก็ตาม ทั้งขนม ของหวาน ที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ รวมถึงแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มหวานๆ ถือว่าห้ามทานเป็นอันขาด
การจัดแผนโภชนาการสำหรับคุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนม
คุณสามารถวางแผนด้านโภชนาการได้ด้วยตัวเอง แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่ต้องเข้าใจด้วยว่าคุณยังต้องได้รับความช่วยเหลือและคำแนะนำจากแพทย์อยู่บ้าง พูดคุย หาความรู้กับแพทย์และนักโภชนาการเพื่อออกแบบสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายได้ดีที่สุดสารอาหารสำคัญสำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
เน้นการเลือกสารอาหารที่คุณควรจะทาน มากกว่าของที่ควรหลีกเลี่ยง สารอาหารที่ควรเน้นให้ร่างกายได้รับมากที่สุดได้แก่
Omega 3 โอเมก้า 3 :พบได้ในปลา โดยเฉพาะปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน Flaxseed และผลวอลนัท
วิตามินบี : ร่างกายสามารถเก็บวิตามินบีไว้ใช้ได้น้อย ดังนั้นเราควรทานอาหารที่เน้นให้วิตามินบีที่หลากหลาย เช่น ผักใบเขียว, ถั่ว,ไข่,
สัตว์ปี, เนื้อสัตว์ต่างๆ
โปรตีน : สามารถพบได้ในเนื้อวัว, เนื้อหมู, ไก่, ไก่งวง, อาหารทะเล, ไข่, ถั่ว และธัญพืช
แคลเซียม : จากผักใบเขียว และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส และโยเกิร์ต
วิตามินดี : ระดับวิตมินดีหลังคลอดของคุณแม่มักลดลงมาก ควรออกไปรับแดดบ้าง และดื่มนม กับโยเกิร์ตเพื่อรับวิตามินดี
กรดโฟลิค Folic : เป็นกรดที่จำเป็นสูงสุดในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด สามารถพบได้ในถั่ว, ผักใบเขียวและเมล็ดธัญพืช
ไอโอดีน : พบได้ในเกลือทะเลและผักใบเขียว
เราเข้าใจดีว่าคุณแม่มักมีเวลาไม่มากพอ การเลี้ยงลูกอ่อนมีความเหนื่อยและวุ่นวายทำให้ไม่มีเวลาดูแลร่างกายและจัดการด้านโภชนาการได้อย่างเต็มที่ เป็นปกติของคุณแม่หลังคลอดที่รู้สึกหมดแรง ไม่มีเวลาจะหาสารอาหารที่สมควร แต่ยังสามารถหาวิตามินเพื่อการให้นมบุตรที่ช่วยประหยัดเวลาและสารอาหารที่ครบถ้วนได้
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเลี้ยงลูกด้วยนม
โปรดจำไว้ว่าไม่ว่าสารอาหารอะไรที่คุณทานเข้าไป ก็มีผลต่อลูกของคุณอยู่เสมอ ดังนั้นคนโบราณและนักโภชนาการสมัยใหม่จึงตั้งกฏที่เข้มงวดสำหรับคุณแม่ที่กำลังให้นมลูกเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่เหมาะสม
- คาเฟอีน : กาแฟมีผลช่วยให้ตื่นตัวและผ่อนคลายได้ดี แต่การดื่มมากเกินไปส่งผลต่อคุณและทารก โดยเฉพาะเรื่องการหลับของทารกได้เมื่อคุณดื่มชา กาแฟ หรือแม้กระทั่งช็อคโกแล็ต
- แอลกอฮอล์ : สามารถดื่มไวน์แก้วเล็กๆ ไม่กี่อึกได้ แต่ไม่ควรให้นมบุตรทันทีหลังจากดื่ม ควรรอเวลาหลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมงขึ้นไป
- ปลาที่กินสัตว์ : ไม่ควรทานปลาที่เป็นสัตว์ล่าเนื้อเพราะอาจมีฟอร์มาลีนสูง เช่นปลาฉลาม, ปลาดาบ หรือปลากระโทง
- อาหารแปรรูป : อาหารเหล่านี้มักเต็มไปด้วน้ำตาล เกลือ และสารปรุงแต่งที่ไม่ดีต่อร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงหรือรับประทานให้น้อยที่สุดในขณะเลี้ยงลูกด้วยนม
คุณมักจะรู้ตัวว่าอาหารประเภทใดที่ทารกไม่ชอบตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่างที่อาจมีผลต่อร่างกายเด็ก หรือที่ลูกไม่ชอบ
- ผลไม้ที่มีผลเป็นยาระบาย : เช่นมะขาม, ลูกพรุน เชอร์รี่ เป็นต้น
- เครื่องเทศต่างๆ : กระเทียม พริกไทย พริกป่น อาหารรสจัด
- ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว : ส้มโอ, ส้ม, มะนาว, เสาวรส
- ผักที่ทำให้ท้องอืด : บล็อคโคลี กะหล่ำดอก
อาหารดังกล่าวเหล่านี้ ถ้าลูกไม่มีการตอบสนองในเชิงลบก็สามารถทานอาหารเหล่านี้ได้ตราบใดที่ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามควรงดเว้นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
วิตามินเสริมนมแม่
องค์กรด้านอาหารออสเตรเลีย แนะนำให้แม่ที่ให้นมบุตรทานสารอาหารเหมาะสมสำหรับสุขภาพอย่างครบถ้วน ทั้งวิตามิน ธัญญาหาร เพื่อทั้งคุณภาพของนมแม่และสุขภาพของตัวคุณแม่กับพัฒนาการของลูกเอง แต่ในความเป็นจริงนั้นคุณแม่ที่คลอดลูกใหม่มักขาดสารอาหาร เพราะการเลี้ยงเด็กทารกต้องมีการทำงานตลอดเวลาจึงยากมากที่จะควบคุมด้านอาหารไม่ให้บกพร่องได้ เราต่างรู้ว่าการทานอาหารนั้นช่วยให้สุขภาพดี แต่ก็มักเป็นไปได้ยากวิตามินรวมสำหรับคุณแม่ที่ให้นมบุตร Elevit ช่วยตอบสนองความต้องการด้านโภชนาการของคุณได้ครบถ้วย สำหรับคุณแม่มือใหม่ และคุณแม่ที่ไม่มีเวลาว่างมากนัก มีสารอาหารสำคัญเช่น Betacarotene, ไอโอดีน, Omega-3, วิตามินบีรวม, Zinc, Folateและวิตามินซี Elevit Breastfeeding วิตามินรวมสำหรับการให้นมบุตร ช่วยด้านสารอาหารที่คุณแม่ต้องการให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งด้านสุขภาพ สมองและสายตา
