ผู้คนจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ใช้ดวงตาจ้องมองไปที่โทรศัพท์มือถือและหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานในแต่ละวันโดยไม่ได้คำนึงถึงผลเสียในระยะยาวต่อดวงตา รวมถึงไม่ได้บริโภคสารอาหารที่ดวงตาต้องใช้ในแต่ละวันอย่างเพียงพอ จึงอาจก่อปัญหาตาแห้ง ต้อเนื้อ จอตาอักเสบและปัญหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับดวงตาตามมาจนยากที่จะแก้ไขให้กลับดีดังเดิม และอีกประการหนึ่งก็คือพระสงฆ์จำนวนมากอาพาตด้วยปัญหาของโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก จึงต้องทำการบ้านและอ่านงานวิจัยเป็นจำนวนมากเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยไม่ใช้สารเคมี
 

ส่วนประกอบใน 1 ซอฟเจล

น้ำมันฟักข้าว 200 mg.
น้ำมันเมล็ดฟักทอง 200 mg.
แอสต้าแซนทิน(สารสกัดจากสาหร่ายแดง) 50 mg.
ไลโคปีน ( สารสกัดจากมะเขือเทศ) 50 mg.
 

ขนาดบรรจุ 180 ซอฟเจล ราคา 1,800 บาท
 

ขนาดรับประทาน

เด็ก อายุ 1-12 ปี
เพื่อป้องกัน 1 ซอฟเจลหลังอาหารเช้า
เพื่อแก้ไข 1 ซอฟเจล หลังอาหารเช้า-เย็น
 

วัยรุ่น 12.1-19 ปี
เพื่อป้องกัน 1 ซอฟเจลหลังอาหารเช้า-เย็น
เพื่อแก้ไข 1 ซอฟเจล หลังอาหารเช้า-เที่ยง-เย็น
 

19ปีขึ้นไป
เพื่อป้องกัน 1 ซอฟเจล หลังอาหารเช้า-เที่ยง-เย็น
เพื่อแก้ไข 2 ซอฟเจล หลังอาหารเช้า-เที่ยง-เย็น
 

ทำไมต้องเป็น 4 ชนิดรวมกัน

...น้ำมันฟักข้าว...
สุดยอดสารสกัดในการสร้างเม็ดเลือดแดงที่พาชาวเวียตนามรอดพ้นจากวิกฤตฝนเหลืองจากสงครามมาได้ ความรู้เพิ่มเติมอ่านได้ในลิงค์ที่มอบไว้
https://www.sirihomemade.com/%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%81%E…/
 

...ไลโคพีน (Lycopene)- สารสกัดจากมะเขือเทศ นับเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่ทรงพลัง มีประสิทธิภาพดีกว่าเบต้าแคโรทีนถึง 2 เท่า และดีกว่าแอลฟาโทโคฟีรอลถึง 10 เท่า ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวพรรณสดชื่นดูมีเลือดฝาดอมชมพู สุขภาพดี ลดการเกิดฝ้า กระ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ไลโคพีน (Lycopene) ยังสามารถปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสี UVA และ UVB ลดอาการผิวไหม้จากแดด ช่วยลดริ้วรอย ความหมองคล้ำและผิวแห้งกร้านได้ ทั้งยังช่วยในการป้องกันการเสื่อมสภาพในเซลล์ และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วยแต่ร่างกายไม่อาจสังเคราะห์ไลโคพีนได้เอง จึงจำเป็นต้องกินจากผัก ผลไม้ เช่น มะเขือเทศในปริมาณมากและกินอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
 

...แอสต้าแซนทิน...

สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระที่มากกว่าวิตามินซีถึง 600 เท่าเมื่อเทียบกันแบบกรัมต่อกรัม อ่านเพิ่มเติมได้ในลิงค์ที่มอบไว้

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1222473647907655&id=100004350947568
 

...น้ำมันเมล็ดฟักทอง...

หากคุณต้องการต่อสู้กับโรคตลอดทั้งปี น้ำมันเมล็ดฟักทองเป็นหนึ่งในหลายองค์ประกอบที่มีประโยชน์ในการรักษาและใช้เป็นประจำทุกวันเพื่อปรับปรุงสุขภาพ

ทริปโตเฟนเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในระดับแชมป์เปี้ยนที่มอบประโยชน์มากมายให้กับทั้งชายและหญิง เมื่อน้ำมันจากเมล็ดเล็ก ๆ เหล่านี้ถูกสกัดออกมาอย่างถูกต้อง (ไม่กลั่น) ความเป็นไปได้ของประโยชน์จะไม่มีที่สิ้นสุด ปริมาณที่สูงของ carotenoids และวิตามินที่ละลายน้ำได้ในน้ำมันเมล็ดฟักทองได้รับการพิจารณาว่าเป็นส่วนผสมที่เหมาะสมสำหรับการป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโรคต่อมลูกหมาก นอกจากนี้การวิจัยได้แสดงให้เห็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ดิ้นรนกับผมร่วง เบาหวานและแม้แต่มะเร็ง

น้ำมันเมล็ดฟักทองหรือที่เรียกว่าน้ำมัน pepita เป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดฟักทอง ฟักทองมีสองประเภทหลัก หนึ่งคือ Cucurbita pepo และอีกหนึ่งคือ Cucurbita maxima

กระบวนการสกัดน้ำมันเมล็ดฟักทองสามารถทำได้มากกว่าหนึ่งวิธี คุณต้องเลือกน้ำมันที่ถูกบีบเย็นซึ่งหมายความว่าน้ำมันถูกสกัดออกมาจากเมล็ดฟักทองโดยใช้แรงดันมากกว่าความร้อน วิธีการสกัดแบบบีบเย็นเป็นที่นิยมมากกว่าเพราะช่วยให้น้ำมันสามารถเก็บสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ได้เป็นอย่างดี
 

8 ประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดฟักทอง

ลดการอักเสบ
โภชนาการเสริมสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
ดีต่อสุขภาพต่อมลูกหมาก
ส่งเสริมสุขภาพจิต
ต่อสู้กับผมร่วงในผู้ชาย
ดีต่อสุขภาพของหัวใจ
ช่วยจัดการโรคเบาหวาน
บรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะบีบตัวมากเกินไป
 

.....อธิบาย....

1.ลดการอักเสบ

การแทนที่ไขมันอิ่มตัวด้วยไขมันที่ดีและไม่อิ่มตัว จะส่งผลกระทบต่อปริมาณการอักเสบในร่างกายของคุณ ในความเป็นจริงการศึกษาวิจัยในปี 2558 พบว่าการแทนที่เนยด้วยน้ำมันเมล็ดฟักทองในอาหารของคนที่ทุกข์ทรมานจากโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์และโรคหลอดเลือด (การสะสมของคราบพลั๊คในผนังของหลอดเลือดแดง) จะลดผลกระทบของโรคเหล่านี้
 

2. ด้านโภชนาการเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง

สำหรับโรคมะเร็ง น้ำมันเมล็ดฟักทองได้รับการพิสูจน์ในการศึกษาหลายครั้งเพื่อสนับสนุนสุขภาพของผู้ป่วยโรคมะเร็งและ / หรือลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เมล็ดฟักทองเป็นเมล็ดพันธุ์ผักชนิดหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน การวิจัยเพิ่มเติมของแผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาของมหาวิทยาลัย Rostock ในประเทศเยอรมนี พบว่าคุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดฟักทองสามารถป้องกันและรักษามะเร็งเต้านม

สำหรับผู้ชาย - เมล็ดฟักทองอาจลดหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก

สำหรับผู้ที่กำลังรักษาโรคมะเร็ง น้ำมันเมล็ดฟักทองอาจเป็นคำตอบสำหรับปัญหาที่พบบ่อย การศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Biochemistry & Biophysics ของอินเดียพบว่าคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันเมล็ดฟักทองสร้างตัวกรองสำหรับรังสีและป้องกันความเสียหายของลำไส้เล็กจาก methotrexate (การรักษาโรคมะเร็งหลายชนิดและโรคไขข้ออักเสบ)
 

3. ดีต่อสุขภาพต่อมลูกหมาก

นอกเหนือจากการใช้เป็นยาพื้นบ้านเพื่อสุขภาพต่อมลูกหมากนานนับศตวรรษ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าน้ำมันเมล็ดฟักทองสามารถช่วยลดขนาดของต่อมลูกหมากโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของต่อมลูกหมากโตที่อ่อนแอ (อายุต่อมลูกหมากที่โตมายาวนาน)

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2009 พบว่าผู้ชายที่บริโภคน้ำมันเมล็ดฟักทอง 320 มิลลิกรัมต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน อาการของโรคที่เกี่ยวกับต่อมลูกหมากและคุณภาพชีวิตดีขึ้น นักวิจัยสรุปว่าน้ำมันเมล็ดฟักทอง “ มีความปลอดภัยในทางการแพทย์และอาจมีประสิทธิภาพในการรักษาทางเลือกสำหรับการรักษาต่อมลูกหมากโต”
 

4. ส่งเสริมสุขภาพจิต

งานวิจัยได้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่ต่อต้านอาการซึมเศร้าที่น่าประทับใจของเมล็ดฟักทองคล้ายกับของยามาตรฐาน
 

5. ต่อสู้ผมร่วงในผู้ชาย

กุญแจสำคัญในการหยุดและ / หรือการย้อนกลับของการสูญเสียเส้นผม...เนื่องจากมันเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนแอนโดรเจน DHT (dihydrotestosterone) เมล็ดฟักทองทำหน้าที่เป็นยาแก้ผมร่วงเนื่องจากมีปริมาณสังกะสีซึ่งช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน ดังนั้นจะส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม

น้ำมันจากเมล็ดฟักทองสามารถปลูกผมใหม่ได้หรือไม่?
มันอาจช่วยตามการวิจัยบางอย่าง ในการทดลองแบบ double-blind, placebo-controlled น้ำมันเมล็ดฟักทองมีความชัดเจน เนื่องจากผู้ชายที่รับประทานน้ำมันในช่วง 24 สัปดาห์แสดงให้เห็นว่าจำนวนเส้นผมเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 40 เปอร์เซ็นต์
 

6. ดีต่อสุขภาพของหัวใจ

แปลกใจหรือไม่ว่าทำไมอาหารเสริมต้านการอักเสบจึงดีสำหรับหัวใจ..
ผ่านกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไนตริกออกไซด์ น้ำมันเมล็ดฟักทองแสดงฤทธิ์ลดความดันโลหิตและ cardioprotective effects หมายความว่าสามารถป้องกันคุณจากโรคหัวใจและ / หรือหัวใจวาย

นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต ในขณะที่เพิ่ม HDL“ไขมันดี” และปรับปรุงอาการในสตรีวัยหมดประจำเดือนตามการศึกษานำร่องแบบสุ่ม double-blinded, placebo-controlled การศึกษานำร่องของผู้หญิง 35 คนที่ตีพิมพ์ใน Climacteric: วารสารสมาคมวัยหมดประจำเดือน
 

7. ช่วยจัดการโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานมีสาเหตุหลายประการหนึ่งในนั้นคืออาหารที่ไม่ดี ทั้งเบาหวานประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 นั้นสามารถจัดการได้และสามารถรักษาได้ด้วยกลยุทธ์การควบคุมอาหารและอาหารเสริมที่ดี การวิจัยแสดงให้เห็นว่าน้ำมันจากเมล็ดฟักทองมีคุณสมบัติลดน้ำตาลในเลือด สิ่งนี้ทำให้น้ำมันจากเมล็ดฟักทองเป็นส่วนเสริมของแผนอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
 

8. บรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะบีบตัวมากเกินไป

การศึกษาในปี 2014 ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์แผนโบราณและการแพทย์ทางเลือกแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากน้ำมันเมล็ดฟักทอง (จากทั้งพันธุ์Cucurbita pepo และ Cucurbita maxima) รักษาโรคปัสสาวะได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่หมายถึงการบริโภคน้ำมันนี้เป็นส่วนสำคัญในการรักษาระบบขับถ่ายที่ดี

และนอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มฮอร์โมนเพศชายตามธรรมชาติที่ดี เพิ่มพลังงานให้มากขึ้นและเพิ่มการนอนหลับดีขึ้น

การศึกษาในปี 2557 ชี้ให้เห็นว่าน้ำมันเมล็ดฟักทองมี“ กรดไขมันที่มีความสำคัญทางชีวภาพ” เมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยกรดโอเลอิกที่ไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก

ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
https://www.verywellfit.com/pumpkin-seed-oil-benefits-and-n…
https://www.verywellhealth.com/pumpkin-seed-oil-health-bene…
https://www.healthline.com/health/pumpkin-seed-oil
 

ใครจะได้รับประโยชน์จาก GLAP บ้าง
ผู้ที่มีกิจกรรมหรือปัญหาดังต่อไปนี้

- ดูหน้าจอเป็นเวลานาน
- วุ้นในตาเสื่อม
- ต้อเนื้อ ต้อหิน
- เบาหวาน
- ต่อมลูกหมากโต
- มะเร็ง
- ปัญหาผิวพรรณ ฝ้า กระ (กิน ทา)
- ผิวคล้ำ แพ้แดด
- ปัญหาทางการได้ยิน
- โรคหลอดเลือดและหัวใจ
- ความดันโลหิตสูง
- ปัสสาวะบ่อย
- วัยทอง
- ผมร่วง (กิน ทา)
- เครียด ขี้หงุดหงิด
- ช่วยชะลอวัย
- ตีนกา (กิน ทา)
- หัวนมดำ (กิน ทา)
 

ราคาสูงหรือไม่...
ก่อนตัดสินใจซื้อ ให้ทำการเปรียบเทียบปริมาณต่อซอฟเจล จำนวนและการที่ต้องซื้อน้ำมัน 4 ชนิดมากินพร้อมกันกับสินค้าที่วางขายในท้องตลาด

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อย

ย้ำ ... กินได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกรดไหลย้อนเป็นโรคกระเพาะอาหารกินได้หมดนะครับ