Product Description
Bladder 2.2 Multivitamin & Mineral by Theralogix (90 day supply)
แบรดเดอร์ 2.2 อาหารเสริมวิตามินรวมและแร่ธาตุ
(สำหรับรับประทาน 90 วัน)
ประโยชน์ Bladder 2.2 Multivitamin & Mineral Supplement
• Bladder 2.2 อาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุสูตรที่เหมาะสมที่สุด ที่ช่วยให้เยื่อบุกระเพาะปัสสาวะแข็งแรง ประกอบด้วยวิตามิน A, B6, C, D, E และ Zinc ออกแบบมาสำหรับทานประจำวันทุกวัน
• สูตรตามการวิจัยที่จัดทำโดย Dr. Donald Lamm, ผู้ริเริ่มศึกษาเกี่ยวกับด้านสุขภาพของกระเพาะปัสสาวะ
คุณภาพที่คุณไว้วางใจได้
• ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา
• ผ่านการทดสอบและรับรองโดย NSF International
• ผลิตในโรงงานที่ได้รับการขึ้นทะเบียน cGMP
• ไม่มีย้อมสีเทียม
• gluten-free
ส่วนประกอบ Bladder 2.2 Multivitamin & Mineral Supplement
การรับประทาน Bladder 2.2 Multivitamin & Mineral Supplement
รับประทาน 2 เม็ดต่อวันพร้อมอาหาร สามารถทานพร้อมกัน หรือทานแยกมื้อก็ได้
**ผู้ที่สูบบุหรี่ไม่ควรทาน Bladder 2.2 การวิจัยระบุว่าอาหารเสริมที่มีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปอดในผู้สูบบุหรี่
**Bladder 2.2 ไม่ควรรับประทานพร้อมกับวิตามินและแร่ธาตุเสริมอื่น ๆ
ปริมาณ Bladder 2.2 Multivitamin & Mineral Supplement
กระปุกละ 180 เม็ด
Product FAQ คำถามที่พบบ่อย
Q : ผู้สูบบุหรี่ควรรับประทาน Bladder 2.2 หรือไม่
A : ไม่ควร, ผู้ที่ยังสูบบุหรี่ไม่ควรรับประทาน Bladder 2.2 เนื่องจากมีผลการวิจัยทางคลินิก 2 งานเปิดเผยว่า การให้วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนเสริมในปริมาณสูง (มากกว่า Bladder 2.2 ประมาณ 3-4 เท่า) เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดในผู้สูบบุหรี่ที่ยังสูบอยู่ ดังนั้น เราไม่แนะนำให้ผู้สูบบุหรี่รับประทาน Bladder 2.2 และสำหรับผู้ที่เคยสูบบุหรี่และเลิกสูบแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีความเสี่ยงเช่นเดียวกันกับผู้ที่ยังสูบอยู่
Q : Bladder 2.2 มีผลข้างเคียงหรือไม่
A : ไม่มีผลข้างเคียงที่คาดหวังได้จากการรับประทาน Bladder 2.2
Q : ใครบ้างที่ไม่ควรรับประทาน Bladder 2.2
A : สตรีมีครรภ์และสตรีที่กำลังให้นมบุตร ผู้ที่สูบบุหรี่ไม่ควรรับประทานผลิตภัณฑ์นี้ ผู้ที่เป็นโรคนิ่วในไต หรือมีประวัติไตวาย ควรใช้อย่างระมัดระวัง
Bladder 2.2 ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือช่วยให้มีอาการกระเพาะปัสสาวะไวหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (IC)
Q : ควรใช้ Bladder 2.2 ควบคู่ไปกับการรักษาโรคของฉัน (บำบัดด้วย BCG และ / หรือ interferon) หรือไม่
A : ใช่, เรามักจะแนะนำการรับประทาน Bladder 2.2 ให้ทานควบคู่ไปกับการรักษาเหล่านี้ (การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดและการรักษาอาการติดเชื้อไวรัส)
Q : Bladder 2.2 มีสารอาหารในปริมาณที่ปลอดภัยไหม
A : แน่นอน แม้ว่า Bladder 2.2 จะมีสารอาหารบางชนิดในปริมาณที่สูงกว่าปริมาณแนะนำสำหรับคนทั่วไป แต่สารอาหารก็อยู่ในระดับต่ำกว่าปริมาณบริโภคที่ร่างกายรับได้ (UL ค่ากำหนดให้เป็นระดับสูงสุดของการรับประทานสารอาหารในแต่ละวัน) ซึ่งไม่เสี่ยงและไม่เกิดผลกระทบข้างเคียง สูตรของ Bladder 2.2 ได้รับการตรวจสอบและรับรองโดย Theralogix Medical Advisory Board ของแพทย์และนักวิทยาศาสตร์แล้วว่าเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง
Q : ฉันควรทานวิตามินรวม และ/หรือ อาหารเสริมอื่นๆ ต่อไปเมื่อรับประทาน Bladder 2.2 หรือไม่
A : ไม่ควร เพราะ Bladder 2.2 เป็นอาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุที่สมบูรณ์และการทานวิตามินรวมอีกตัวควบคู่กันไปด้วยจะทำให้คุณอาจได้รับสารอาหารบางชนิดมากเกินไป ไม่ควรทานอาหารเสริมชนิดอื่นๆควบคู่หรืออาหารเสริมที่มีวิตามิน A, B6 เพิ่มเติม
Q : Bladder 2.2 ทำปฏิกิริยากับยาที่แพทย์สั่งหรือไม่
A : ใช่, เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอื่นๆ ขอแนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร หรือทีมผู้ดูแลสุขภาพเพื่อสอบถามว่าสามารถรับประทาน Bladder 2.2 ร่วมกับยาของคุณได้หรืไม่
ไม่ควรทาน Theralogix Bladder 2.2 หากคุณกำลังใช้ยาต่อไปนี้ :
Retinoids : ไม่ควรทานยาและครีมที่มีวิตามินเอ (acitretin, all-trans retinoic acid, bexarotene, etretinate และ isotretinoin) ร่วมกับ Theralogix Bladder 2.2 เพราะจะทำให้วิตามินเอมีมากเกินไป
Levodopa : ไม่ควรรับประทาน Bladder 2.2 เนื่องจาก pyridoxine (Vitamin B6)
ยาที่เปลี่ยนแปลงโดยสารตั้งต้นของตับ Cytochrome P450 3A4 (CYP34) (เช่น lovastatin, clarithromycin, estrogens) - CYP34 เป็นเอนไซม์ที่สำคัญในร่างกายของคุณซึ่งส่วนใหญ่พบได้ในตับ มีหน้าที่นำมาสลายยาในร่างกาย วิตามินดีอาจเพิ่มความรวดเร็วในการทำลายยาของตับ การรับประทาน Bladder 2.2 ที่มีวิตามิน D 50 mcg (2,000 IU) ร่วมกับยาบางชนิดอาจลดประสิทธิภาพของยาบางชนิดได้ ก่อนที่จะใช้ Bladder 2.2 จึงต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ของคุณเพื่อตรวจสอบว่าคุณกำลังทานยาที่มีผลกับตับหรืไม่
Theralogix Bladder 2.2 อาจส่งผลต่อการดูดซึมยาตามใบสั่งแพทย์บางชนิด ดังนี้:
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) : สารอาหารบางอย่าง เช่น สังกะสี สามารถจับกับยาปฏิชีวนะในกระเพาะอาหารและลดการดูดซึมรวมถึงประสิทธิผล ขึ้นอยู่กับยาปฏิชีวนะที่คุณใช้ อาจต้องแยกการรับประทานวิตามินรวมออกจากยาปฏิชีวนะ อย่างน้อย 2-6 ชั่วโมง หรือหยุดรับประทานวิตามินรวมในขณะที่ทานยาปฏิชีวนะ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อพิจารณาว่าคุณควรหยุดทานวิตามินรวมเป็นเวลาสั้นๆได้หรือไม่
• Penicillamine (Cuprimine, Depen) - แยกทานเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
• Cephalexin (Keflex) - รับประทาน Bladder 2.2 สามชั่วโมงขึ้นไปหลังจากรับประทานยาปฏิชีวนะนี้
• ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลีน (doxycycline, minocycline, demeclocycline) - แยก 4 ชั่วโมง
• Ciprofloxacin (Cipro), gemifloxacin (Factive), levofloxacin (Levaquin), Moxifloxacin (Avelox) - แยกเป็นเวลา 6 ชั่วโมง
Atorvastatin (Lipitor) - ยาช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย การใช้ Bladder 2.2 ที่มีวิตามินดี 50 ไมโครกรัม (2,000 IU) อาจลดปริมาณ atorvastatin ที่ร่างกายดูดซึมได้ ควรแยกทานกันอย่างน้อย 2 ชม.
ยาขับปัสสาวะ Thiazide - ยาเหล่านี้ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูงภาวะหัวใจล้มเหลวรวมทั้งการสะสมของของเหลวและอาการบวม (บวมน้ำ) ในร่างกาย ยาเหล่านี้ยังเพิ่มปริมาณแคลเซียมในร่างกาย วิตามินดีช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมแคลเซียม การรับประทาน Bladder 2.2 ที่มีวิตามินดี 50 mcg (2,000 IU) ร่วมกับยาเหล่านี้อาจทำให้แคลเซียมในร่างกายมากเกินไป