Product Description
Theravir® Immune Support Supplement
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อภูมิคุ้มกันที่ดี (สำหรับทาน 90 วัน)
ประโยชน์ของ Theravir® Immune Support Supplement
สุขภาพของภูมิคุ้มกันเป็นเกราะกำบังที่ช่วยปกป้องร่างกายจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคต่างๆ สำหรับวัยผู้ใหญ่ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง การเพิ่มการป้องกันด้วยภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทำงานในระบบต่างๆได้ดียิ่งขึ้น Theravir เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่บรรจุวิตามินและแร่ธาตุจำเป็นสำหรับการเสริมประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันให้ทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการวิจัยและทดสอบแล้วว่าเป็นการรวมกันของสารอาหารที่ดีที่ช่วยการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นจริง ทำให้ผู้รับประทานมั่นใจในคุณภาพได้อย่างแน่นอน
Theravir อาหารเสริมที่ประกอบด้วย vitamin C, vitamin D, zinc, copper, quercetin และเมลาโทนิน เพื่อเสริมสุขภาพของภูมิคุ้มกัน เป็นการรวมกันของวิตามินแร่ธาตุและไฟโตนิวเทรียส์ที่ได้รับการพิสูจน์และมีหลักฐานเชิงประจักษ์แล้วว่ามีผลที่ดีต่อการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่สำคัญของร่างกาย
สูตรที่เหมาะสมที่สุด Theravir® Immune Support Supplement
- มีวิตามินซี วิตามินดี สังกะสี ทองแดง เคอร์ซิตินและเมลาโทนิน เพื่อบำรุงภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- พิสูจน์แล้วว่ามีผลดีต่อภูมิคุ้มกัน
- การวิจัยแสดงผลให้เห็นว่าการรวมกันของสารอาหารนี้มีการตอบสนองที่ดีต่อภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- ไม่มีสีย้อม ไม่มีกลูเต็น เหมาะสำหรับมังสวิรัติ
- คุณภาพที่คุณวางใจได้
- ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา และโรงงานที่ได้มาตรฐาน cGMP
ส่วนประกอบของ Theravir® Immune Support Supplement
วิธีการรับประทาน Theravir® Immune Support Supplement
ทานครั้งละ 2 เม็ดก่อนเข้านอน เพื่อการดูดซึมที่ดีที่สุดควรทานอาหารรองท้องก่อนทาน Theravir
ปริมาณของ Theravir® Immune Support Supplement
บรรจุ 180 เม็ด (สำหรับรับประทาน 90 วัน)
Product FAQ
Q : Theravir ต่างจากวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆอย่างไร
A : Theravir มีสูตรการบำรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอย่างไม่เหมือนใคร สำหรับ Theravir แตกต่างที่มีการวิจัยเฉพาะของเราเพื่อการสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยส่วนผสมของวิตามิน C, วิตามิน D3, สังกะสี, ทองแดง, quercitin และ เมลาโทนิน โดยทั่วไปแล้วจะบรรจุวิตามินและแร่ธาตุที่มากกว่าจำนวนที่เราทานได้จากอาหารในชีวิตประจำวัน
Q : Quercetin คืออะไร?
A : Quercetin เป็นสารอาหารที่เราพบได้ในไวน์ หัวหอม คะน้า แอปเปิ้ล และชาเขียว เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่ได้รับการวิจัยว่ามีผลต่อการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันและดีต่อสุขภาพเพราะมีฤทธิ์ในการต้านออกซิเดชั่นสูงที่สุด ป้องกันการอักเสบ การแข็งตัวของเลือด ต้านทานแบคทีเรีย และไวรัส เพิ่มภูมิต้านทานต่อโรคได้เป็นอย่างดี
Q : ใครที่ควรทาน Theravir บ้าง
A : เหมาะสำหรับวัยผู้ใหญ่ที่กำลังมองหาอาหารเสริมเพื่อช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แบบทานได้ตลอด
Q : ควรทาน Theravir ตอนไหนจะได้ประโยชน์สูงสุด
A : เวลาที่เหมาะสมที่สุดคือประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะใน Theravir มีเมลาโทนินทำให้เกิดอาการง่วงนอน ดังนั้นไม่ควรขับรถหรือใช้งานเครื่องจักรกลหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมงหลังจากทาน Theravir
Q : Theravir มีผลข้างเคียงหรือไม่
A : ไม่มีผลข้างเคียงที่คาดหวังได้จาก Theravir สำหรับคนที่มีสุขภาพแข็งแรง Theravir มีสารเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนในระบบประสาท และอาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนหรือ “หัวหนัก” หรืออาการเวียนศรีษะ ไม่ควรขับรถหรือใช้งานเครื่องจักรกลหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมงหลังจากทาน Theravir
Q : ใครบ้างที่ไม่ควรทาน Theravir
A : ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรไม่ควรรับประทาน Theravir เนื่องจากมีเมลาโทนินและยังไม่มีการวิจัยเพียงพอที่จะตัดสินได้ว่าเมลาโทนินปลอดภัยสำหรับผู้หญิงท้องหรืออยู่ระหว่างให้นมบุตรหรือไม่
ผู้ที่ต้องการรับประทาน Theravir ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ก่อนเริ่มรับประทาน หากคุณกำลังอยู่ในระหว่างการรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันอัตโนมัติ, ซึมเศร้า, เบาหวาน, โรคลมชัก หรือไทรอยด์ เมลาโทนินอาจมีผลกระทบทำให้โรคซึมเศร้าแย่ลงได้ และเมลาโทนินอาจมีส่วนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มหรือลดลงได้ ดังนั้นโปรดตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดของคุณอย่างใกล้ชิดเมื่อรับประทาน นอกจากนี้เมลาโทนินอาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ดังนั้นหากคุณอยู่ระหว่างการรักษาโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าสามารถใช้เมลาโทนินได้หรือไม่
Q : สามารถทาน Theravir ร่วมกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆได้หรือไม่
A : คุณสามารถทาน Theravir พร้อมกับอาหารเสริมอื่นๆ เช่น โอเมก้า 3, กลูโคซามีน, แครนเบอร์รี่, Chondroitin และ PEA
- อย่าใช้ Theravir กับอาหารเสริมที่มีแร่ธาตุสังกะสี เนื่องจากใน Theravir มีสังกะสีอยู่แล้ว 40 มิลลิกรัม
- อย่าใช้ Theravir กับอาหารเสริมชนิดอื่นที่มีเมลาโทนิน
- อย่าใช้ Theravir หากทาน Echinacea (สมุนไพรแอ็กไคนาเซีย ที่มีสรรพคุณช่วยต้านไวรัส) เนื่องจากการใช้ echinacea กับเมลาโทนินใน Theravir อาจมีผลเสียต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- อย่าใช้ Theravir หากทาน สมุนไพร St. John’s wort และ Vitex angus-castus (เชสต์เบอร์รี่) เพราะสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้ช่วยเพิ่มระดับเมลาโทนินในร่างกาย สำหรับ Theravir มีเมลาโทนินอยู่แล้ว โดยหลักทฤษฏีการทานอาหารเสริมตัวใดตัวหนึ่งอาจะเพิ่มผลกระทบหรือผลข้างเคียงจากเมลาโทนินได้
Q : Theravir มีผลต่อยาตามใบสั่งแพทย์หรือไม่
A : เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทุกชนิด ขอแนะนำให้คุณปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อตรวจสอบว่า Theravir สามารถรับประทานร่วมกับยาของคุณได้หรือไม่
ยาที่เปลี่ยนแปลงโดยตับ Cytochrome P450 3A4 (CYP34) เป็นสารตั้งต้น (lovastatin, clarithromycin, estrogens และอื่น ๆ ) : CYP34 เป็นเอนไซม์ที่สำคัญในร่างกายของคุณ ส่วนใหญ่พบในตับ มีหน้าที่ทำลายยาในร่างกาย วิตามินดีอาจไปเพิ่มความรวดเร็วของตับในการกำจัดยาบางชนิดได้ การใช้ Theravir ซึ่งมีวิตามินดี 50 mcg (2,000 IU) พร้อมกับยาบางชนิดอาจลดประสิทธิภาพของยาเหล่านี้
Quinolone Antibiotics (ciprofloxacin (Cipro), levofloxacin (Levaquin), ofloxacin (Floxin), moxifloxacin (Avelox), gatifloxacin (Tequin) : Qurecetin อาจรบกวนประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะ อย่าใช้ Theravir ในขณะที่ทานยาปฏิชีวนะ
Theravir อาจส่งผลกระทบต่อการดูดซึมของยาบางอย่างดังนี้
ยาปฏิชีวนะ Antibiotics : สังกะสีที่บรรจุมาใน Theravir สามารถผูกกับยาปฏิชีวนะในกระเพาะอาหารและลดการดูดซึมรวมถึงประสิทธิภาพของยา ขึ้นอยู่กับประเภทของยาปฏิชีวนะ คุณอาจต้องแยกทานวิตามินจากยาปฏิชีวนะอย่างน้อย 2-6 ชั่วโมงหรือหยุดการทานวิตามินในขณะที่กำลังรักษาร่างกายด้วยยาปฏิชีวนะ ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อตรวจสอบว่าคุณควรหยุดทานวิตามินไปก่อนเป็นเวลาสั้นๆหรือไม่
-
Penicillamine (Cuprimine, Depen) - แยกทาน 2 ชั่วโมง
-
Cephalexin (Keflex) - ทาน Theravir 3 ชั่วโมงขึ้นไปหลังจากทานยาปฏิชีวนะนี้
-
Tetracycline Antibiotics (doxycycline, minocycline, demeclocycline) - แยกทาน 4 ชั่วโมง
ยากันชัก phenobarbital, primidone (Mysoline), valproic acid (Depakene), gabapentin (Neurontin), carbamazepine (Tegretol), and phenytoin (Dilantin) : ยาประเภทที่ช่วยป้องกันการชัก Theravir ที่มีสารเมลาโทนินอาจไปลดประสิทธิภาพของยาเหล่านี้
ยาลดความดันโลหิต (ยาลดความดันโลหิตเช่น captopril, enalapril, losartan, valsartan, diltiazem, amlodipine, quinapril, hydrochlorothiazide, furosemide): Quercetin ใน Theravir มีคุณสมบัติการลดความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ในทางทฤษฏี อาจทำให้ยาลดความดันมีผลลดลงหรือเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการความดันโลหิตต่ำ นอกจากนี้สารเมลาโทนินอาจทำให้ความดันโลหิตแย่ลงสำหรับผู้ทานยาลดความดันโลหิตสูง ดังนั้นควรทานแยกกัน 2 ชั่วโมงและติดตามความดันโลหิตของคุณอย่างใกล้ชิด
ยาสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน (Antidiabetic drugs) : ใช้ Theravir อย่างระมัดระวัง เนื่องจากสารเมลาโทนินอาจเพิ่มหรือลดระดับน้ำตาลในเลือด หรือเพิ่มประสิทธิภาพของยาเหล่านี้มากขึ้นได้
ยารักษาโรคลมชัก (anesthetics (propofol, others), antiarrhythmics (mexiletine), antidepressants (bupropion, others), antihistamines (cyproheptadine, others), immunosuppressants (cyclosporine), narcotics (fentanyl, others), stimulants (methylphenidate), and theophylline) : เนื่องจากใน Theravir มีเมลาโทนิน ซึ่งอาจะเพิ่มความเสี่ยงของการชักในบางคนได้ ควรใช้ Theravir อย่างระมัดระวังหากคุณทานยารักษาโรคลมชัก
ยากดภูมิคุ้มกัน (azathioprine (Imuran), basiliximab (Simulect), cyclosporine (Neoral, Sandimmune), daclizumab (Zenapax), muromonab-CD3 (OKT3, Orthoclone OKT3), mycophenolate (CellCept), tacrolimus (FK506, Prograf), sirolimus (Rapamune), prednisone (Deltasone, Orasone), and other corticosteroids (glucocorticoids) : ยาเหล่านี้ทำหน้าที่กดภูมิคุ้มกัน และ Theravir อาจรบกวนการรักษาด้วยยาที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันเหล่านี้
Thiazide diuretics (aka: water pills) ยาที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูง โรคหัวใจล้มเหลวเนื่องจากการสะสมของของเหลวและอาการบวมน้ำในร่างกาย ยาเหล่านี้จะเพิ่มแคลเซียมขึ้นในร่างกาย ซึ่งวิตามินดีใน Theravir ที่มี 50 mcg (2,000 IU) พร้อมกับยาเหล่านี้อาจไปเพิ่มระดับแคลเซียมในมีมากเกินไป
Warfarin (Coumadin) : ใน Theravir มีสารเมลาโทนิน อาจเพิ่มผลกระทบของ Warfarin และเพิ่มความเสี่ยงของอาการช้ำหรือเลือดออกได้
